Tuesday 7 June 2011

[SF] H♥g & Smile☀ Part 1

Title --- Hug & Smile

Author --- Nalikakeaw

Parings --- Keito & Daiki

 
 
 
ฉันก็แค่..... อยากจะให้นายกอดฉันแบบนี้ต่อไป จะได้มั๊ยนะ

.........................

ยิ้มให้ฉันสิ ถ้านายยิ้มให้  ฉันสัญญา . . . ว่าจะกอดนายอย่างนี้...ตลอดไป
 
 
 
 
 
"เอ๋ เตียงเดี่ยวเหรอ?"  ร่างสูงออกจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง เมื่อกี๊เข้าไปห้องของเมมเบอร์คนอื่นๆ ก็เป็นเตียงคู่หมดนี่นา
 

...แย่จัง ทำไงดี......
 

"ถ้านายไม่อยากนอนเตียงเดียวกับฉันก็ไม่เป็นไรนะ ฉันจะไปขอเปลี่ยนกับชิเนนก็ได้ ให้เขามานอนห้องนี้แทน"
 

นั่นไงล่ะ  เพราะมัวแต่กังวล เลยลืมว่ายังมีอีกคนอยู่ในห้องด้วย และอีกคนนั้นก็กำลังจะหันหลังให้เขาเพื่อก้าวออกไปจากห้อง
 

ร่างสูงก้าวตามโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด  ใช้แรงเพียงเล็กน้อยผลักประตูปิดลงไปอย่างเดิม แต่คนตัวบางยังยืนหันหลังให้เขา มือยังจับอยู่ที่ลูกบิดประตูไม่ยอมปล่อย
 

"ไม่ใช่แบบนั้นนะ"
 

"แล้วเพราะอะไรล่ะ ตั้งแต่อยู่ข้างล่าง พอรู้ว่าจะได้อยู่ห้องเดียวกัน นายก็เอาแต่เงียบ แล้วตอนนี้นายก็ไม่พอใจเรื่องเตียงเดี่ยวนี่อีก"
 

"เมื่อกี๊ฉันคิดเรื่องงานอยู่ต่างหาก"
 

"โกหก"
 

ย้อนว่าทั้งๆที่ยังหันหลังให้นั่นแหละ  ไหล่บางเริ่มสั่นน้อยๆ ชวนให้คนมองใจเสีย เขาก็โกหกจริงๆ แต่จะทำยังไงให้คนตรงหน้านี้เชื่อได้ล่ะ
 

สองมือค่อยแตะลงบนไหล่บาง ประคองให้ร่างนั้นหันกลับมามองหน้าเขาช้าๆ  พอได้เห็นรอยยิ้มที่แสนคุ้นเคยนั่น ความกังวลทั้งหมดก็คลายลง
 

.....รอยยิ้ม......
 

......เอ๋?......
 

พอได้เห็นดวงตาเรียวรีเบิกกว้าง  ร่างเล็กก็หัวเราะคิกคักชอบใจ
 

"นายนี่ซื้อบื้อชะมัด"
 

...... ถูกหลอกจนได้สิ.......
 

"อะไรเนี่ย ไดจัง ฉันซีเรียสนะ"
 

"เมื่อกี๊บอกว่าคิดเรื่องงานไงล่ะ คนโกหก"
 

....... ถูกหลอกอีกแล้ว ......

 
"นายกังวลอะไร หรือกลัวว่าถ้านอนห้องเดียวกัน นอนเตียงเดียวกันกับฉันแล้วฉันจะปล้ำนาย"
 

ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย  ร่างสูงคิด  มีใครที่ไม่รู้บ้างว่า อาริโอกะ ไดกิ คนนี้ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงแค่ไหน  สิ่งเดียวที่เขากังวล ก็คือทำยังไงไม่ให้ตัวเองเข้าไปรบกวนโลกส่วนตัวใบนั้นต่างหาก
 

"ฉันนอนดิ้นนะไดจัง"
 

"แล้วไงล่ะ ถ้าไม่ถึงขนาดต่อยคนข้างๆหรือละเมอโวยวายล่ะก็ยังพอรับได้นะ แต่ถ้าถึงขั้นนั้นนายคงต้องไปนอนบนพื้นแล้วล่ะ"
 

เคย์โตะหัวเราะพรืด ถ้าพรุ่งนี้เขาต้องลงมานอนกับพื้นห้อง คงไม่ต้องสงสัยสินะว่าถูกใครยันลงมา
 

"แล้วนี่  ฉันจะเข้าไปได้รึยัง"

 
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ที่ร่างสูงใช้สองแขนยันกับประตูคร่อมร่างเล็กเอาไว้ จนอีกฝ่ายต้องพิงประตูยามที่คุยกัน เมื่อไดกิเงยหน้าสบตาเขา ระยะห่างระหว่างกันก็เหลืออยู่นิดเดียว
 

"ขอโทษที" บอกพลางมองตามไดกิเดินลากกระเป๋าเข้าไปนั่งที่เตียง

 
"เตียงก็ออกจะกว้าง นายนี่คิดอะไรไม่เข้าเรื่อง แล้วจะยืนอยู่อีกนานมั๊ย หรือนายอยากจะนอนตรงนั้นล่ะ"
 

ถึงไดกิจะพูดแบบนี้กับเขาอีกซักกี่ครั้ง ก็ไม่ได้ทำให้เคย์โตะโกรธเลยสักนิด เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะสิ่งที่เขาได้เห็นอยู่ตอนนี้น่ะสิ

 
ขี้โกงจังนะ ไดจัง นายยิ้มให้ฉันแบบนี้แล้วฉันจะโกรธนายลงได้ยังไงกันล่ะ
 
 
 



++++++++++++++++++++
 
 

 
ชักไม่มั่นใจแล้วสิ ว่าเตียงจะกว้างอย่างที่ว่า
 

ก็คนพูดน่ะ ครองเตียงอยู่คนเดียวจนแทบไม่เหลือที่ไว้ให้เขาเลยนี่นา
 

"นี่กะจะให้ฉันนอนบนพื้นจริงๆใช่ไหมเนี่ย ฉันไม่ยอมหรอกนะไดจัง"
 

พูดไปก็เท่านั้น คนฟังลาไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว  ไหนบอกว่าจะอยู่รอเล่นไพ่ด้วยกันไงล่ะ ทีเขายังนั่งรอไดกิอาบน้ำได้ตั้งชั่วโมง
 

บ่นในใจไปตั้งมากมาย แต่ที่ทำได้ก็คือถอนหายใจ ไม่มีอะไรจะทำแล้วก็นอนดีกว่า ว่าแต่เขาควรจะนอนส่วนไหนของเตียงล่ะ?
 

ไฟในห้องดับลงเหลือเพียงแสงสว่างนวลตาจากโคมไฟข้างเตียง เคย์โตะค่อยช้อนร่างบางให้ขยับอย่างเบามือ ไม่อยากรบกวนให้คนที่กำลังฝันดีต้องตื่น
 

"อือ"
 

ตื่นจนได้แฮะ

 
"ขอโทษนะไดจัง ฉันจะนอนแล้วล่ะ นายขยับไปหน่อยได้มั๊ย"

 
พยักหน้ารับ ขยับตัวทั้งที่ยังหลับตา เคย์โตะดึงผ้าห่มคลุมให้ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนข้างๆ ห่มผ้าให้ตัวเองบ้าง
 


.......................
 


.............
 


.....
 


แปลก ?  เหมือนมีอะไรมาทับตัวอยู่เลย แต่ไม่หนักแฮะ ไม่ใช่ผีนี่นา
 

"อืมม์"
 

ไม่ใช่จริงๆด้วย
 

เคย์โตะลืมตามองคนตัวเล็กที่ทำเหมือนเขาเป็นหมอนข้างกอดอุ่นสบาย แล้วนึกอยากลุกไปสวมเสื้อ ปกติเขาไม่เคยสวมเสื้อนอนเพราะชอบเวลาที่ร่างกายได้สัมผัสผ้าห่มนุ่ม  แต่กับผิวแก้มนุ่มๆเนื้อตัวอุ่นๆของไดกิ เขาไม่ชินเอาซะเลย
 

พอจะขยับตัวหนี แขนเรียวก็ตวัดกอดแน่น แถมยังหลับแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวซะด้วย เห็นใบหน้ายิ้มละไมยามนิทราของไดกิแล้วหมั่นเขี้ยวอยากบีบจมูกไดกิแรงๆซักที คนเราเวลาหลับยิ้มกันแบบนี้ทุกคนรึเปล่านะ
 

"ไดจังนี่น้า แล้วแบบนี้ฉันจะหลับลงได้ยังไง"
 

แขนแข็งแรงโอบกระชับร่างเล็กแนบกับอก เคลียแก้มตัวเองลงกับกลุ่มผมหอม จนเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด กระซิบแผ่วเบาข้างๆหู
 

"ฝันดีนะ ไดจัง"
 


 
 
 
++++++++++++++++++++
 
 

........



....



..


อุ่นจัง....สบายดีด้วย
 

สบายจนอยากจะนอนอยู่อย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน
 

...ไดจัง....
 

...ไดจัง  ตื่นเถอะ....
 

น่ารำคาญจัง ใครน่ะ
 

...ไดจัง สายแล้วนะ.....

 
"อือ" ครางในลำคออย่างแสนหงุดหงิด กำลังฝันดีอยู่เชียว
 

"ตื่นได้แล้วไดจัง วันนี้ต้องทำงานนะ"
 

"นายก็ไปอาบน้ำก่อนสิ ฉันจะนอน"
 

เคย์โตะขมวดคิ้ว ชักจะฝันดีไปหน่อยไหม เมื่อคืนกว่าเขาจะข่มตาหลับลงได้ก็แทบแย่แล้วนะ ขืนปล่อยให้หลับต่อวันนี้คงไม่ต้องทำงานกันล่ะ

 
สองนิ้วแข็งแรงคีบเข้าที่จมูกของคนขี้เซา จนเจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตา ได้แต่ปัดมือออกอย่างรำคาญใจ ดูท่าทางแมวน้อยตัวนี้คงชอบการนอนเป็นชีวิตจิตใจสินะ 
 

เฮ้อ... ยอมแพ้จริงๆ
 

"ปล่อยฉันก่อนสิไดจัง แล้วค่อยนอนต่อ"

 
ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่คำพูดประโยคนั้นจะทะลุเข้าไปหาไดกิถึงในฝัน แม้จะลืมตาแล้วก็ยังงัวเงียเป็นลูกแมวขี้เซากอดไม่ยอมปล่อยอยู่ดี
 

"อรุณสวัสดิ์"

 
ใจจริงอยากจะถามว่าฝันดีมั๊ย นอนฟังเสียงหัวใจของเขาอยู่ทั้งคืน
 

ไดกิกระพริบตา ก่อนจะพบว่า เขาพาตัวเองมานอนอยู่ในอ้อมอกอบอุ่นนี่เสียทั้งคืน จนเช้าแล้วก็ยังไม่ยอมลุก  นึกโมโหตัวเองที่แก้นิสัยแบบนี้ไม่หายสักที
 

"ขอโทษนะ นายคงอึดอัดล่ะสิ"
 

รู้ว่าทำให้อีกฝ่ายอึดอัด แต่ก็ยังงัวเงียไม่เลิก ปล่อยให้ตัวเองนอนอยู่แบบนั้น จนหมอนข้างชั้นดีที่กอดมาทั้งคืนบีบจมูกเอาอีกหนนั่นแหละถึงได้กระเด้งตัวลุกขึ้น คลำจมูกตัวเองป้อยๆ โวยวายไล่หลังคนตัวสูงที่วิ่งเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ
 
 
 
 
++++++++++++++++++++
 
 
 
 
เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาไปเสียแล้วสำหรับเหล่าเมมเบอร์ ที่จะได้เห็นไดกิเตรียมตัวพร้อมไปทำงานก่อนใคร ทั้งที่เมื่อก่อน กว่าจะงัดออกจากเตียงได้คนร่วมห้องต้องเสียแรงไม่ใช่น้อย สุดท้ายก็ต้องลากออกมาทั้งที่เจ้าตัวยังหลับตาด้วยซ้ำ
 

"ถามจริง นายใช้วิธีไหนปลุกไดจัง"
 

เป็นคำถามที่เคย์โตะได้ฟังวันละหลายๆหน ซึ่งเขาก็ตอบไปเหมือนเดิมทุกครั้ง ว่าปลุกอย่างที่เคยปลุกเมมเบอร์คนอื่นๆนั่นแหละ  แต่ไม่มีใครเชื่อเลยซักคน  ไม่ได้คำตอบจากเขาก็ไปคาดคั้นเอาจากคนที่ตื่นเช้าผิดปกติแทน เซ้าซี้หนักๆเข้าเจ้าตัวเลยตอกกลับเรื่องนิสัยยามนอนของแต่ละคนนั่นแหละ จึงเลิกถามเสียได้
 

ไม่ได้อยากปิดบังให้เป็นความลับ  แต่ถ้าตอบไปตามความจริง จะเป็นยังไงนะ  
 


.......................
 

.............
 

.....

 

"อ้าว ยังไม่นอนอีกเหรอ"
 

หลังจากคอนเสิร์ต  เคย์โตะไม่ตรงเข้าห้องพักอย่างเคย แต่แวะเวียนไปนั่งเล่นในห้องพักของเมมเบอร์คนอื่นๆอยู่นาน กว่าจะกลับมาถึงห้องก็ดึกมากแล้ว
 

แต่พอเข้ามาในห้องแล้วยังเห็นไดกินั่งทำตาแป๋วอยู่บนเตียง ทั้งๆที่เจ้าตัวบ่นว่าง่วงนอนมาตลอดทางนั่นแหละที่แปลกจนต้องถามออกไป
 

"ฉันนอนไม่หลับ"
 

"แล้วทำไมไม่ปิดไฟล่ะ"  มองไปรอบๆห้อง ไฟทุกดวงยังส่วางจ้า
 

"ฉันรอนาย"

 
คำตอบมันผิดคาดเสียจนคนฟังนึกไม่ออกว่าจะควรพูดอะไรต่อ ได้แต่ขมวดคิ้วใส่คนที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยความสงสัย แต่จะให้ถามต่อว่ารอทำไมก็ใช่ที่ เพราะดูแล้วไดกิอาจจะหงุดหงิดจนอาจจะอาละวาดได้ในไม่ช้า ซึ่งการนอนหลับคงเป็นยารักษาที่ได้ผลดีที่สุด
 

หลังจากเคย์โตะเข้าห้องน้ำไปแล้ว ไดกิจึงเอนตัวลงนอนอย่างขัดใจ  เขาไม่รู้จริงๆว่าทำไมจึงนอนไม่หลับทั้งที่เหนื่อยจนแทบขาดใจ จะเป็นเพราะแปลกที่ก็ไม่ใช่ คิดไปคิดมาเลยพาลไปถึงคนที่ยังอยู่ในห้องน้ำ เพราะเคย์โตะนั่นแหละ   มัวไปเถลไถล ไม่ยอมกลับห้องเสียที เขาถึงต้องเปิดไฟรอจนต้องนอนไม่หลับแบบนี้
 

.......................
 


.............
 

.....
 

ไหนเมื่อกี๊ใครว่านอนไม่หลับ
 

แล้วทำไมตอนนี้ถึงหลับได้ง่ายดายนัก
 

"เฮ้อ"
 

ถอนหายใจ แต่ใบหน้ากลับระบายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเลื่อนกายลงนอนข้างกัน

 
ชั่งใจอยู่นานว่าเขาจะควรจะทำยังถ้าไดกิกอดเขาอีก เขาไม่ได้นึกรำคาญแค่ไม่ชอบตื่นขึ้นมากลางดึกทุกคืนเท่านั้นเอง
 

แต่คำตอบก็แวบเข้ามาในสมองแทบจะทันที

 
งั้นก็กอดตอนนี้ แล้วก็หลับไปพร้อมกันซะก็สิ้นเรื่อง




 
++++++++++++++++++++ 
 
To Be Con..... 

No comments:

Post a Comment