Title -:- Sweet Dreams
Writer -:- Nalikakeaw
Pairing -:- Taka x inoo
วันนี้อากาศดีเป็นพิเศษ แสงแดดสดใส อากาศอบอุ่นเป็นใจราวกับจะอวยพรให้เด็กน้อยที่เพิ่งก้าวเท้าออกจากบ้านอย่างร่าเริง
ให้วันนี้ เป็นวันดีตลอดทั้งวัน...
สิบนาทีต่อมา เด็กน้อยหน้าแป้นแล้น เดินยิ้มแฉ่งเข้าไปในโรงเรียนอย่างอารมณ์ดี เดินไปจนถึงหน้าห้อง ได้ยินเสียงเซ็งแซ่อันเป็นเสียงประจำในยามเช้าก่อนเข้าเรียน เมื่อเข้าไปในห้อง ทุกคนในห้องก็หันมาทักทายเหมือนเคย
วันนี้เด็กน้อยมาโรงเรียนเร็วกว่าปกติ แต่ก็ยังช้ากว่าเพื่อนๆในห้อง
"ก็วันนี้คุณครูจะบอกผลสอบนี่นา ตื่นเต้นอ่ะ"
"นี่ๆ อิโนะจังว่าคราวนี้ใครจะสอบได้ที่หนึ่ง"
"ถามอะไรอย่างนั้น ก็ต้องเป็นอิโนะจังแหงๆอยู่แล้วนี่นาใช่ม๊า~"
เด็กน้อยเพียงแต่ยิ้มรับ ทั้งๆที่ในใจก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เรื่องการเรียน เด็กชายอิโนะโอะ เคย์ คนนี้ก็ไม่อยากแพ้ใคร แต่ว่าเพื่อนๆในห้องน่ะ ก็เก่งๆกันทั้งนั้นเลย ...แล้วก็ตั้งใจเรียนกันมากๆด้วย
อีกอย่างคราวนี้เขาก็ไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าไหร่ เพราะงั้น...ขอแค่ไม่สอบตกก็พอใจแล้วล่ะ....
เสียงประตูเปิด จากที่คุยจ้อ หรือบ้างก็วิ่งเล่นกัน พริบตาเดียวเด็กๆก็กลับไปนั่งประจำที่ ทำตาแป๋วมองคุณครูประจำชั้นที่เดินเข้ามา หอบกระดาษข้อสอบที่ตรวจแล้วมาด้วย
"เดี๋ยวครูจะเรียกชื่อทีละคนนะจ๊ะ แล้วออกมารับผลสอบจากครู"
คุณครูยิ้มหวาน ขานชื่อนักเรียนออกไปรับผลสอบทีละคน เด็กน้อยเคยสงสัยว่าทำไมคุณครูไม่แจกข้อสอบที่โต๊ะนักเรียนแต่ละคนไปเลยนะ ออกไปรับข้อสอบหน้าห้องแบบนี้ ไม่ต้องดูกระดาษคำตอบแค่เห็นสีหน้าของเพื่อนๆแต่ละคนก็รู้แล้วว่าผลสอบเป็นยังไง
ไม่ชอบเลย...
"เด็กชาย อิโนะโอะ เคย์"
เด็กชายลุกขึ้นเดินไปหน้าห้องช้าๆ รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่สายตาของทุกคนในห้องมองตามทุกก้าวที่เดิน แต่ยิ่งเดินก็เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกดทับลงมา ยิ่งก้าวไปข้างหน้าความมั่นใจยิ่งหดหาย แต่เด็กชายไม่ได้เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร คิดแค่ว่าตัวเองคงจะตื่นเต้นมากกว่าปกติไปหน่อยเท่านั้น มือถึงได้สั่นตอนที่รับเอากระดาษคำตอบมา
แต่เอ๊ะ!!!
เด็กชายพลิกกระดาษในมือกลับไปกลับมา สงสัยคุณครูจะหยิบมาผิดละมั้ง กระดาษใบนี้ไม่มีอะไรเลยนี่นา
"นี่มันกระดาษเปล่านี่ครับคุณครู คุณครูหยิบผิด"
"ไม่ผิดหรอกจ๊ะ ลองดูให้ดีสิ"
ราวกับมีเวทมนต์ เมื่อเด็กน้อยก้มลงมองกระดาษเปล่าในมืออีกครั้ง รอยหมึกสีแดงก็ปรากฏกลางหน้ากระดาษ เหมือนใครสักคนลากปากกาเป็นเส้นโค้งยาว เด็กน้อยมองตามรอยหมึกจนกระทั่งปลายเส้นทั้งสองโค้งลงมาบรรจบกัน กลายเป็นรูปวงรีสีแดงวงใหญ่ๆเด่นชัดบนกระดาษขาว
"เสียใจด้วยนะจ๊ะ"
คุณครูยิ้มให้ แต่สำหรับเด็กชาย รอยยิ้มนี้มันช่างโหดร้ายนัก ในเมื่อคำพูดของคุณครูที่ประกาศก้องต่อหน้านักเรียนทั้งห้อง ไม่ได้มีความปราณีเลยแม้แต่น้อย
"เธอสอบตก!!!"
ไม่นะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
..................................
................
.......
..
"ไม่!!!!!!"
ร่างบางสะดุ้ง ดีดตัวลุกขึ้นจากโต๊ะอ่านหนังสือสุดแรงจนเสียหลัก ล้มหงายหลังลงไปกระแทกพื้นทั้งเก้าอี้ เท่านั้นไม่พอหนังสือเล่มหนาๆยังพากันร่วงลงมาใส่ตัวจนแทบจุก ปล่อยให้ตัวเองนอนมึนงงอยู่ชั่วครู่ ถึงได้รู้สึกตัวว่าเหตุการณ์เมื่อกี๊เป็นเพียงความฝัน
เมื่อคืนอ่านหนังสือจนดึก ไม่รู้เลยว่าหลับคาโต๊ะไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตื่นขึ้นมาเลยปวดหลังปวดไหล่ไปหมด แถมยังฝันอีกต่างหาก
แต่ฝันว่าสอบตกในวันสอบ.... ฝันแบบนี้เป็นลางร้ายชัดๆ!!!
เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะร่างบางที่กำลังจะงีบหลับคาพื้นอีกรอบ ให้ต้องลุกขึ้นมาคว้าโทรศัพท์มากดดูว่าใครกันหนอที่ส่งข้อความมาให้โทรศัพท์คู่ชีพสั่นเตือนเป็นว่าเล่นแต่เช้า
"โชคดีนะ" จาก ยาบุ
"โย่ว อย่าลืมกินข้าวก่อนไปสอบ สมองจะได้มีแรง" จาก ฮิคารุ
"ถ้าสอบผ่าน จะเลี้ยงหนังเรื่องที่นายอยากดูนะ" จาก ไดจัง
จากนั้นก็เป็นข้อความจากเมมเบอร์เซเว่นที่ส่งตามกันมาแบบวินาทีต่อวินาที เหมือนนัดกันส่งมายังไงยังงั้น แต่ละข้อความทำเอาคนอ่านข้อความยิ้มแป้น ความรู้สึกแย่ๆที่เกิดจากฝันร้ายก่อนหน้าหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
มีกำลังใจดีๆมากมายแบบนี้ ถ้ายังสอบตกอีก อิโนะโอะ เคย์ คนนี้ คงเป็นคนที่แย่ที่สุดในโลก เดี๋ยวสอบเสร็จแล้วจะซื้อขนมเจ้าอร่อยหน้ามหาวิทยาลัยไปฝากนะทุกคน
เสียงเตือนข้อความดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ร่างบางต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความอีกครั้ง แล้วก็ต้องย่นคิ้วน้อยๆกับไอคอนแสดงอารมณ์รูปสิงโตกำลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา โดยไม่มีข้อความใดๆเลยแม้แต่คำเดียว
แต่นั่นแหละ ข้อความนี้จะมาจากใครได้ ถ้าไม่ใช่คนปากร้ายนิสัยเด็กที่สุดในบรรดาเมมเบอร์
"เจ้าบ้า!! คุยกันดีๆซักวันมันจะตายรึไง"
บ่นกับโทรศัพท์แล้วโยนมันส่งๆลงไปอยู่ในกระเป๋าซะอย่างนั้น ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับนาฬิกาเรือนเล็กที่เอียงผิดตำแหน่งบนโต๊ะเขียนหนังสือ ทำให้ดูเวลาปัจจุบันได้ลำบากไปหน่อย
อืม.. เข็มสั้นชี้เลขแปด เข็มยาวชี้เลขสิบสอง...
เอ...เข็มสั้นชี้เลขแปด เข็มยาวชี้เลขสิบสอง...
เข็มสั้นชี้เลขแปด เข็มยาวชี้เลขสิบสอง...?
"อ๊า!!!!!! สายแล้วววววววววววว!!!!!"
++++++++++++++++++++++++++
บ่ายวันเดียวกัน ร่างบางเดินหมดเรี่ยวแรงเข้าไปในห้องแต่งตัว หอบหนังสือกองโตติดกระเป๋ามาด้วย แต่เดินยังไม่ทันจะถึงโต๊ะ ก็เข่าอ่อนสะดุดล้ม ข้าวของที่หอบมากระจายเต็มพื้น ทำเอาเพื่อนร่วมวงใจหายใจคว่ำ ถลาลุกจากที่นั่งมาช่วยประคอง
"ซุ่มซ่ามเซ่อซ่า"
ใครบางคนที่ไม่แม้แต่จะลุกขึ้นมาช่วยแล้วยังนั่งทำผมสบายใจอยู่หน้ากระจก พูดลอยๆมาให้คนฟังเจ็บใจเล่น แต่วันนี้ร่างบางเหนื่อยเกินกว่าจะต่อปากต่อคำด้วยอย่างทุกวัน เมื่อคืนเผลอหลับคากองหนังสือ ทำให้ฝันร้าย หลับไม่สนิทปวดเมื่อยไปทั้งตัว ไหนจะต้องวิ่งหน้าตั้งไปให้ทันเข้าห้องสอบ แล้วยังจะต้องเค้นมันสมองไปสู้รบกับข้อสอบมหาโหดสุดหิน เท่านี้ก็เสียพลังงานไปเกือบหมดตัว เลยทำได้เพียงกัดฟันบอกกับเพื่อนร่วมวงไปว่า
"ไม่เป็นไรหรอก แค่นอนไม่พอน่ะ"
"สภาพแบบนี้ไปสอบมันจะสอบผ่านเร้อ ฉันว่าคงทำผิดตั้งแต่ข้อแรกแล้วล่ะ สอบตกชัวร์"
นัยน์ตาที่ดูเหนื่อยล้าเมื่อตอนที่เดินเข้าห้องมาวาววับขึ้นทันที เรื่องอื่นเขาไม่ถือ แต่ถ้ามาแช่งให้สอบตกละยอมไม่ได้ !!!
ยาบุปล่อยมือที่ประคองเพื่อน ลากฮิคารุและไดกิที่ช่วยกันหอบทั้งหนังสือ ขนม เต็มสองมือให้ห่างจากสมรภูมิรบที่กำลังจะเปิดศึกในไม่ช้า
"ทาคาคิ ยูยะ!! ไอ้คนปากเสีย!! ตายซะเถอะ!!"
ร่างบางกระโจนเข้าใส่คนตัวหนากว่าที่ยังนั่งอยู่หน้ากระจก สองมือเรียวขยี้ผมที่ใช้เวลาจัดทรงสามชั่วโมงของทาคาคิ ยูยะ อย่างไร้ความปราณี จากทรงผมที่ไดร์ให้พองฟูดูดีอย่างราชสีห์ตอนนี้เหลือแค่ทรงรังนกถูกทอร์นาโดโจมตีจนไม่เหลือซาก ยูยะร้องห้ามลั่นห้อง
"หยุดนะเว้ยเฮ้ยยย!!!"
ฮิคารุมองมวยคู่เอกประจำวง แล้วก็หันไปมองหน้ายาบุที่รับหน้าที่กรรมการจำเป็นที่ต้องคอยห้ามทุกยก แต่วันนี้กรรมการกลับกอดอกยืนดูเฉยๆ ปล่อยให้นักมวยวัดดวงกันเองซะงั้น
"ปล่อยให้ทะเลาะกันไปก่อน เดี๋ยวเหนื่อยแล้วก็คงหยุดเองแหละ ทะเลาะกันอยู่ได้ทุกวัน ขี้เกียจห้าม"
ฮิคารุพยักหน้าเออออ เดินตามยาบุไปสมทบกับไดกิที่นั่งกินขนมแบบไม่ทุกข์ร้อนกับเสียงโครมคราม เสียงโวยวาย ที่ดังมาเป็นระยะๆ ไปๆมาๆฮิคารุก็เริ่มเอือมระอาบ้างแล้วเหมือนกัน คนหนึ่งก็ช่างหาเรื่องใส่ตัวอยู่ได้ทุกวัน อีกคนก็ขี้โมโห อารมณ์เสียอยู่ได้ทุกครั้ง รู้ทั้งรู้ว่าทาคาคิน่ะปากร้ายก็ยังใส่ใจให้เป็นเรื่องอยู่ได้
ทะเลาะกันได้ไม่เบื่อเลยนะ...สองคนนี้
..................................
................
.......
..
"หยุดนะ! อิโนะจัง! พอได้แล้ว!"
ร้องห้ามมาตั้งแต่ห้านาทีก่อน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเคย์จะยอมหยุด ตอนนี้มือบางเปลี่ยนเป้าหมายจากทึ้งผมของยูยะ มาเป็นฟาดมือใส่ร่างหนาแทน แต่ฟาดได้แค่สองสามทีมือทั้งสองข้างก็ถูกรวบเข้าไปกุมไว้โดยคนปากร้ายที่หาเรื่องใส่ตัวมาตั้งแต่แรก แม้ยูยะจะไม่ได้ออกแรงมากนัก แต่คนที่เพิ่งใช้แรงกายแรงใจหมดไปกับการสอบก็ไม่มีแรงพอจะดิ้นให้หลุด ร่างบางจึงขยับริมฝีปากต่อว่าแทน
"นายมันใจร้ายที่สุด! ไม่ให้กำลังใจกันก็ไม่ว่า แต่ยังมาพูดแบบนี้อีก รู้ไหมว่าฉันทั้งกังวลแล้วก็กลัวแค่ไหนว่าจะทำข้อสอบได้ไม่ดี เมื่อเช้านี้ก็ฝันร้ายฝันว่าสอบตกด้วย!"
"อิโนะจัง"
เรียกเสียงอ่อยๆ เพราะรู้ว่าทำให้คนตรงหน้าโกรธขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นคนที่ในหัวมีแต่เรื่องงานและเรื่องเรียนมาเป็นอันดับหนึ่ง คงไม่มาอาละวาดเอากับเขาทั้งๆที่มีงานรออยู่ตรงหน้าเป็นแน่
"อิโนะจัง ฉันขอ-"
"ทาคาคิคุงจะทำอะไรอิโนะจังน่ะ?"
คู่วิวาทหยุดชะงักหันหน้าไปหาคนถามที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันนัก เซเว่นเมมเบอร์แต่ละคนที่เพิ่งมาถึงกำลังหยุดยืนมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าต่างกันไป ยามาดะกับยูริยืนเคียงกันด้วยสีหน้าเอาเรื่องเหมือนทุกครั้งที่เห็นยูยะหาเรื่องรังแกเมมเบอร์คนเก่งประจำวง แล้วหลังจากนั้นยูยะก็จะถูกค่อนขอดกลับมาทุกครั้งว่าเขาอิจฉาความหัวดีของเคย์ถึงได้หาเรื่องแกล้ง โดยมีเคย์โตะยืนเป็นทัพเสริมสนับสนุนถ้อยคำนั้นด้วยสายตาอยู่ข้างหลัง
จะเว้นก็แต่ยูโตะกับริวทาโร... ที่นอกจากจะไม่ได้แสดงท่าทีว่าเอือมระอาอย่างเมมเบอร์คนอื่นๆแล้ว ยังหัวเราะชอบใจซุบซิบอะไรกันสองคน จนแม้แต่คนที่ไม่ค่อยยุ่งเรื่องชาวบ้านอย่างเคย์โตะยังอดสงสัยไม่ได้
"พวกนายหัวเราะอะไรกัน?"
ยูโตะไม่ตอบหันไปพยักเพยิดกับริวทาโรแล้วทำท่าจะเดินผ่านไป แต่ก็ถูกขวางไว้ ยามาดะกับยูริใช้สายตาขู่เข็ญเอากับยูโตะ
"สนุกนักเหรอ? เห็นคนอื่นทะเลาะกัน"
"เปล่าน๊า~ ยามะจัง มาทางนี้สิ เดี๋ยวจะเล่าอะไรให้ฟัง"
ยูโตะยิ้มร่า วาดสองแขนซ้ายขวาโอบคนตัวเล็กกว่าไว้ข้างละคน พาเดินไปสุมหัวกันที่มุมห้อง ริวทาโรล็อกคอพี่เม่นเดินตามไปด้วย ทั้งยูยะและเคย์มองตามไปอย่างสงสัย จนลืมไปว่าก่อนหน้านี้สองคนทะเลาะกันแทบตาย และดูเหมือนจะลืม...
ลืมไปว่า...มือของยูยะ ยังกุมมือเรียวคู่หนึ่งเอาไว้
หลังจากที่กระซิบกระซาบอะไรกันอยู่ครู่หนึ่ง ยามาดะกับยูริก็อุทานออกมาเสียงดังมากพอที่จะทำให้สองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่คนละฟากห้องได้หูกระดิก
"ทฤษฎีอะไรของนายน่ะยูโตะ? ฉันไม่เคยได้ยิน"
"นั่นสิยูโตะคุง อะไรคือยิ่งชอบยิ่งแกล้ง? ถูกแกล้งนี่มันเป็นเรื่องสนุกเหรอ? ลองใครมาแกล้งฉันแบบนี้ฉันจะเกลียดไปสิบชาติเลย"
ผิดกับพ่อหนุ่มหัวเม่นที่ดูจะเข้าใจอะไรๆขึ้นมาทันตา หัวเราะออกมาน้อยๆตามสไตล์อิงลิชบอย และแม้ว่าเคย์โตะจะไม่ได้พูดอะไรแต่สายตาที่มองไปที่ยูยะและเคย์นั้นมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนถูกมองร้อนตัวขึ้นมาซะอย่างนั้น
"อะไรน่ะ เจ้าพวกนั้นพูดถึงอะไรกัน อิโนะจัง นายรู้รึเปล่า?"
"ฉัน-" กำลังจะจิกคนตรงหน้าว่าเขาจะรู้ได้ยังไงในเมื่อยืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ แต่สายตาของเซเว่นเมมเบอร์ที่มองมาก็ทำให้ร่างบางเข้าใจสิ่งที่ยูโตะพยายามจะบอกกับยามาดะและยูริทันที
เคย์มองมือของตัวเองที่ถูกกุมไว้แนบอกหนา แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าที่บ่งบอกถึงความงุนงงของยูยะ สลับกันไปมา
แล้วหัวใจทั้งสี่ห้องก็แข่งกันทำงานหนักสูบฉีดเลือดขึ้นไปอยู่ตรงสองแก้มจนร้อนไปหมด ร่างบางสะบัดมือออกแล้วหันหลังซ่อนพวงแก้มแดงๆให้พ้นจากสายตาของยูยะ
แต่ไม่พ้นสายตาของสองโตะและเมมเบอร์จัมพ์คนอื่นๆที่มองมาตั้งแต่ต้น
"ฮิ้ววววววววววววววววว!!!!!"
เคย์เหวี่ยงสายตาเขียวปัดไปทางต้นเสียง หวังให้ยูโตะกับเมมเบอร์คนอื่นๆเงียบเสียงไปซะ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งถูกล้อมากขึ้นจนต้องเป็นฝ่ายเดินปึงปังหนีออกไปจากห้องอย่างขัดใจ ทิ้งร่างหนาไว้กับสถานการณ์ที่คนไร้ความอ่อนไหวอย่างยูยะยากจะเข้าใจ และทรงผมรังนกบ้านแตกที่คาดว่าอีกสามชั่วโมงก็ยังไม่น่าจะแก้ให้กลับไปเป็นทรงเดิมได้
++++++++++++++++++++++++++
เพิ่งตีกันให้ทีมงานเห็นอยู่หยกๆ แต่วันนี้ช่างภาพก็จัดสองคนให้มาถ่ายภาพคู่กัน ร่างบางต้องบังคับใจอย่างหนักไม่ให้ตัวเองเผลอผลักหัวฟูๆของคนที่ซบตักอยู่ตอนนี้ให้ลงไปกองกับพื้นแล้วเตะซ้ำ ทำใจอยู่นานกว่าจะยิ้มออกมาได้ แต่พอก้มลงมองใบหน้าที่กำลังหลับตาพริ้มสบายแล้ววมันน่า..
"หน้าตาตอนหลับก็น่ารักดีหรอก แต่พอตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นฝันร้ายชัดๆ"
"ฉันได้ยินนะ อิโนะจัง"
ก็อยากให้ได้ยินน่ะสิ! ร่างบางคิดอย่างขุ่นเคือง ไม่อยากใส่ใจแต่ก็ทำใจไม่ได้ นึกแล้วอยากให้หัวฟูๆนี่กลายเป็นรังนกอีกรอบนัก
"ขอโทษ"
เอ๊ะ!! ได้ยินเหมือนเสียงอะไรแว่วๆ มันรวดเร็วมากเกินไปจนต้องตั้งสติถามตัวเองว่าที่ได้ยินเมื่อกี๊ เขาไม่ได้คิดไปเอง
"ฉันขอโทษ ที่จริงฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งให้นายโมโหเหมือนทุกทีหรอก แค่พูดตรงไปหน่อย ไม่นึกว่านายจะโกรธจริงๆ"
เป็นคำขอโทษที่สมควรได้รับการให้อภัย จริงใจเสียจนคนฟังอยากจะบีบคอคนพูดให้ลิ้นจุกปาก พูดแบบนี้ก็หมายความว่าเขาผิดที่โกรธตอนที่ยูยะแช่งว่าเขาจะสอบตกน่ะสิ
"ฉันไม่ได้แช่ง แค่พูดความจริง"
ยูยะยังคงหลับตาพูดแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทั้งๆที่ร่างบางเริ่มโกรธจนตัวสั่น ไม่ได้แช่ง แต่จะบอกว่ายังไงๆเด็กมหา'ลัยอย่างเขาก็ต้องสอบตกงั้นสิ!
"นายนี่ซื่อบื้อจัง ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คนจะไปสอบน่ะ มันต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจไม่ใช่หรือไง อิโนะจังน่ะ ทำงานหนักอยู่แล้ว ไหนจะต้องอ่านหนังสือ เวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มี แล้วแบบนี้นายจะเอาแรง เอาสมองที่ไหนไปสอบเล่า ให้ฉันเดานะ เมื่อคืนคงหลับคากองหนังสือล่ะสิ"
เดาแม่นเหมือนตาเห็น มือเรียวที่กำลังจะฟาดลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลทองของยูยะชะงักกลางอากาศ เคย์ค่อยๆวางมือลงบนผมของยูยะ ลูบเบาๆระหว่างที่คิดตามสิ่งที่ร่างหนาเพิ่งพูดไป
จะว่าไปก็จริง เมื่อคืนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ หลับคาโต๊ะหนังสือทำให้หลับไม่สบายนัก ตอนเช้าก็ตื่นสาย อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์พ่อแม่ไปเที่ยวก็เลยไม่มีคนเตรียมอาหารเช้าให้ กว่าจะได้กินข้าวก็คือตอนออกจากห้องสอบช่วงบ่ายแล้ว แต่ก็ต้องรีบมาทำงานต่อเลยกินแค่ขนมปังไปสองสามแผ่นเท่านั้น
"ฉันพูดถูกใช่มั๊ย เป็นแบบนี้บ่อยๆเข้าสักวันนายก็ต้องสอบตกแน่ๆ"
มือเรียวเผลอกระตุกผมของคนที่ซบตักอยู่จนเจ้าตัวต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตา
ทาคาคิ ยูยะ! ถ้าวันนี้นายไม่หยุดพูดคำว่าสอบตก อย่าหวังเลยว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปกินข้าวที่บ้าน!!
..................................
................
.......
..
"ฉันว่า ไอ้ทฤษฎียิ่งชอบยิ่งแกล้ง ยิ่งเกลียดยิ่งรัก ยิ่งทะเลาะกันยิ่งเข้าใจอะไรของนายนั่นน่ะ มันจะไม่ได้ผลนะยูโตะ"
"รอดูไปเหอะน่ายามะจัง ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา"
ยูโตะตอบกลับมาแบบอารมณ์ดีสุดๆ พลางเปิดหนังสือของเคย์ ที่ปกด้านในมีรูปวาดประหลาดที่ดูไม่ออกว่าเป็นตัวอะไร มันกลมๆฟูๆ ดูยุ่งเหยิง มีสี่ขาแล้วก็มีหาง ใต้รูปภาพมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆว่า
"ไฟท์โตะ โอ้!!!!!!"
อย่าถามเลยว่าชะตาชีวิตของคนที่ฝากรอยเอาไว้บนหนังสือเรียนอันล้ำค่าของอิโนะโอะ เคย์ จะเป็นยังไงต่อไป เพราะตอนนี้เจ้าของหนังสือวิ่งออกจากห้องไปแล้วพร้อมเสียงคำรามที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังโกรธสุดชีวิต
ตัวใครตัวมันนะ..ทาคาคิคุง...
++++++++++++++++++++++++++
เสียงกุกกักจากที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ สัมผัสนุ่มๆเย็นๆที่ใบหน้า ลำคอ และแขน ปลุกคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้น ดวงตาเรียวค่อยเปิดรับภาพช้าๆ แต่แล้วก็ต้องหลับตาลงอีก เพราะทุกสิ่งรอบตัวดูจะหมุนติ้วจนตาพร่าไปหมด
"ที่นี่มัน-"
"ห้องของฉันเอง"
น้ำเสียงคุ้นหูตอบกลับมา แต่เคย์ก็ไม่อยากจะเชื่อประสาทรับรู้ของตัวเองเท่าใดนัก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงที่คนอย่างทาคาคิ ยูยะ จะพาเขามาที่ห้อง คอยดูแลเช็ดตัวให้ แล้วน้ำเสียงอ่อนโยนที่พูดกับเขานี่อีก
ฝันร้ายอีกแล้ว....
"นายเป็นลมจนเกือบตกบันได หมอบอกว่าเป็นเพราะพักผ่อนน้อย พักสักคืนก็จะดีขึ้น นายหิวรึเปล่า"
เคย์ส่ายหน้า แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้เวียนหัวมากขึ้นจนเกือบจะอาเจียน ต้องพยายามสูดหายใจลึกๆเพื่อให้อาการเวียนหัวบรรเทาลงบ้าง
"พรุ่งนี้มีสอบ"
รำพึงกับตัวเองเบาๆแต่ก็ไม่วายถูกดุกลับมา ถึงจะได้ยินไม่ชัดนักแต่ก็พอจะจับใจความได้คำว่า "ไม่รู้จักดูแลตัวเอง" แล้วก็เสียงถอนใจอยู่ใกล้ๆ
"คืนนี้พักให้เต็มอิ่มก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาอ่านหนังสือก็ยังทัน"
ถึงไม่ห้าม เขาก็ไม่มีแรงจะลุกจากเตียงอยู่แล้ว ตอนนี้ทั้งตัวมันหนักไปหมด ถ้าไม่มีมืออุ่นๆกับผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นที่เช็ดตัวให้เขาคงจะคิดว่าตัวเองกลายเป็นรูปปั้นหินไปแล้ว
"ขอบคุณนะ..แล้วก็ขอโทษ.."
พูดได้เพียงเท่านั้นจริงๆ แต่ละคำที่พูดนั้นช่างยากลำบากเหลือเกินกว่าจะเอ่ยออกมาได้ ได้แต่หวังว่าคนฟังจะรับรู้ความหมายว่าเขาซาบซึ้งใจและละอายเพียงใดที่ทำให้อีกฝ่ายต้องลำบาก
"ไม่เป็นไร แต่อย่าฝืนตัวเองอีกนะรู้ไหม ฉันเป็นห่วง"
ร่างบางตอบรับน้ำเสียงอบอุ่นเจือความห่วงใยนั้นด้วยการแนบแก้มตัวเองกับมือหนา ผ่อนลมหายใจช้าๆ ปล่อยใจให้ล่องลอยไปในห้วงฝันอันแสนหวานที่เมื่อลืมตาตื่นในวันพรุ่งนี้ ก็จะไม่มีอีก..
ขอฝันดีๆแบบนี้ตลอดไปจะได้ไหมนะ...
..................................
................
.......
..
แสงแดดอุ่นๆ สายลมอ่อนๆ พัดพลิ้วผ่านผ้าม่านสีครีมอ่อนเข้ามาในห้อง ร่างบางบนเตียงพลิกตัวหันหลังให้หน้าต่าง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัว ใจนึกอยากจะฝันดีต่ออีกหน่อย แต่...
"จะนอนไปถึงไหน! วันนี้นายมีสอบตอนบ่ายไม่ใช่รึไง ตื่นได้แล้ว!!!"
เคย์พลิกตัวม้วนอยู่ในผ้าห่มหนีเสียงห้าวๆ กับมือหนาที่พยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวเขาอย่างดื้อดึงอยู่พักใหญ่ สุดท้ายมือคู่นั้นก็ยอมแพ้ปล่อยมือจากร่างบางที่กลายร่างเป็นหนอนยักษ์อยู่บนเตียง
"ไม่ตื่นก็ตามใจ แต่ถ้าวันนี้ไปสอบไม่ทันละก็-"
"ตื่นแล้ว!!!"
ลุกขึ้นนั่งพร้อมๆกับเหวี่ยงผ้าห่มออกจากตัวอย่างหงุดหงิด มองคนตรงหน้าแล้วนึกสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมหนอ ไอ้คนที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่นี่ถึงไม่ใช่ ทาคาคิ ยูยะ คนที่เจอในฝัน
ฝันก็เป็นได้แค่ฝันสินะ...
"จะมองหน้าอีกนานมั๊ย? ไปอาบน้ำ! แล้วมากินข้าว!"
อยากกลับไปฝันต่อ แต่เห็นหน้าตากวนประสาทของยูยะแล้วคงจะหลับไม่ลงแน่ๆ ร่างบางลุกจากเตียงด้วยอารมณ์เซ็งสุดขีด แต่เดินไปไม่ถึงห้องน้ำก็ต้องมีอันสะดุดล้ม ทำไมวันนี้ชุดนอนมันแปลกๆ เสื้อก็ตัวใหญ่ เอวกางเกงก็หลวมด้วย
"ก็นั่นมันเสื้อของฉัน กางเกงก็ใช่ มันจะพอดีกับตัวนายได้ยังไงเล่า!"
"พูดเป็นเล่น ทำไมฉันจะต้องไปใส่เสื้อนายด้วย! ก็นี่มัน-"
ห้องของเขา เสื้อผ้านี่มันก็ต้องเป็นของเขาสิ.....
ไม่ใช่นี่หว่า! ห้องของเขาไม่ได้ติดวอลเปเปอร์สีนี้ ทั้งผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ ชั้นหนังสือที่สูงจรดเพดานก็หายไป มีแต่ชั้นวางแผ่นเกม การ์ตูน ที่ร่างบางไม่รู้จักและไม่เคยคิดจะซื้อมาอ่านเลย ห้องที่จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้ว ทำไมมันรกเป็นรังหมาอย่างงี้
แล้วชุดนอนนี่...
"ฝันค้างหรือไงนาย ถ้าฝันอยู่ก็ตื่นซะ!"
เคย์มองหน้ายูยะอย่างสับสน เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อคืนนั้นเป็นความฝันหรือเป็นความจริงกันแน่ สมองถูกใช้งานอย่างหนักกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแต่เช้า...
"อิโนะจัง!!!!"
ยูยะถลาเข้าไปประคองร่างบางที่เริ่มโงนเงนยืนไม่อยู่ไว้ในอ้อมแขน เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆที่ปลุกคนป่วยขึ้นมาแต่เช้า แต่เคย์กลับโบกมือปฏิเสธไม่ยอมกลับไปนอนต่อ บอกว่ายิ่งนอนก็ยิ่งเวียนหัว ถ้าได้ล้างหน้าคงจะดีขึ้น ยูยะเลยยอมตามใจพาร่างบางไปส่งถึงหน้าประตูห้องน้ำ แล้วก็ไม่ยอมขยับไปไหนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูด้วยความเป็นห่วง
..................................
................
.......
..
เมื่อเคย์เปิดประตูออกจากห้องน้ำ ก็พบยูยะยืนค้างอยู่ในท่าทางที่เหมือนว่ากำลังจะเคาะประตู
"ห้องน้ำนะไม่ใช่ห้องนอน เข้าไปทำอะไรอยู่ในนั้นหนักหนาห๊ะ!!"
ยูยะบอกอย่างหงุดหงิด หันหลังให้ร่างบางที่ลอบยิ้มน้อยๆ ห่วงฉันสินะทาคาคิคุง
"ฉันกลัวนายมาล้มหัวฟาดพื้นตายในห้องฉันต่างหาก ฉันกลัวผี ขนาดไม่ตายยังเฮี้ยนขนาดนี้ ถ้าตายแล้วจะขนาดไหน"
ถ้าเป็นเมื่อก่อน คนที่จะได้เป็นผีเฝ้าห้องคงไม่พ้นยูยะเป็นแน่ แต่ตอนที่อยู่ในห้องน้ำ ร่างบางก็คิดอะไรได้หลายอย่าง เมื่อวานตอนที่เป็นลมไปเคย์จำได้เพียงว่าเขาวิ่งตามยูยะไปจนถึงบันไดเท่านั้น แต่เมื่อกี๊ที่ยูยะกอดเขาไว้ ก็ทำให้จำอะไรได้อีกเล็กน้อย
"นี่ทาคาคิคุง.. เมื่อวานตอนที่ฉันเป็นลม นายช่วยฉันไว้สินะ"
"ไม่ได้ตั้งใจช่วยหรอก แค่ฉันยืนอยู่ตรงนั้นแล้วนายก็ล้มลงมาทับฉันต่างหาก"
"แล้วฉันยังรบกวนมานอนที่ห้องนายอีก"
"อันนี้ก็ไม่ได้เต็มใจอีกเหมือนกัน ยาบุกับฮิคารุบังคับให้ฉันพานายมา บอกว่าฉันต้องรับผิดชอบที่ทำให้นายตกบันได ชิ! ฉันไม่ได้ผลักนายซักหน่อย"
ร่างบางแอบปิดปากหัวเราะคนที่หันหลังเถียงเขาข้างๆคูๆ ทำเป็นสาละวนยุ่งอยู่กับการชงกาแฟแก้วเดียวอยู่เป็นนานสองนาน ไม่ยอมหันกลับมามองหน้ากันตรงๆเสียที
"เมื่อคืนนายเช็ดตัวให้ฉันด้วยสินะ"
ไหล่หนาสะดุ้งน้อยๆ ตกใจที่เคย์รู้แม้กระทั่งเรื่องนั้น แต่ก็ยังเก็บอาการไว้ได้ นึกแช่งตัวเองที่ลืมเก็บกะละมังใบเล็กกับผ้าขนหนูที่วางไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงตั้งแต่เมื่อคืน
"กะ- ก็นายไม่ได้อาบน้ำ เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้นายมานอนบนเตียงทั้งที่ตัวเหม็นๆเล่า!!"
"อุตส่าห์นอนเฝ้าทั้งคืนด้วยสินะ"
"ห้องก็ห้องฉัน เตียงก็ของฉัน แล้วทำไมฉันต้องเสียสละให้นายแล้วระเห็จออกมานอนที่โซฟาด้วย"
ถูกต้อนจนเกือบจนแต้ม แต่ก็ยังแถไปได้อีกหน่อย ทั้งที่ความจริงแล้วเมื่อคืน ร่างบางจับมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อย จากที่ตั้งใจจะหอบหมอนออกมานอนที่โซฟาหน้าทีวี ก็ต้องปล่อยเลยตามเลยจนถึงเช้า สัมผัสจากแก้มขาวเนียนยังคงหลงเหลืออยู่บนมือของเขา ยิ่งนึกถึงใบหน้ายามหลับไหลของร่างบาง หัวใจก็เต้นแรงจนห้ามไม่อยู่ ต้องทำหงุดหงิดกวนประสาทกลบเกลื่อนอาการ แต่วันนี้เคย์ดูจะอารมณ์ดีจนไม่ถือสาหาความกับคำพูดแรงๆของเขาเอาเสียเลย
"นี่ทาคาคิคุง"
"อะไรอีกเล่า! เรียกอยู่ได้ เหวอ!!!"
ทีแรกตั้งใจจะโวยวายใส่ แต่พอหันกลับมาเห็นใบหน้าขาวใสในระยะประชิด ตกใจจนเกือบทำแก้วกาแฟหลุดมือ หัวใจเต้นโครมครามยามที่ได้สบตากับอีกฝ่าย อะไรที่คิดไว้ก่อนหน้านี้กระเจิงหายไปเรียบร้อย ได้แต่ภาวนาให้เคย์ไม่เข้ามาใกล้กว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะหัวใจวายตายแน่ๆ
"ทาคาคิคุง นายจะว่าอะไรไหม? ถ้าฉันจะขอมาค้างที่นี่อีกซักคืนสองคืน"
"ห๊ะ!!!!"
"ก็..ฉันยังไม่หายดีนี่นา แล้วที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ด้วย ถึงนายไม่ได้เป็นคนทำให้ฉันเกือบตกบันไดก็จริง แต่นายก็เป็นต้นเหตุนั่นแหละ เพราะฉะนั้นนายก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบดูแลจนกว่าฉันจะหายดีสิ เอาตามนี้แหละ เดี๋ยวบ่ายนี้สอบเสร็จแล้วฉันจะกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านแล้วจะกลับมานะ อ้อ แล้วเอากุญแจสำรองมาด้วย เผื่อนายไม่อยู่ฉันจะได้เปิดประตูเข้ามาเอง"
หลังจากที่เอาตัวรอดมาจนสีข้างถลอกปอกเปิก สุดท้าย.. สิงโตก็ตกหลุมกับดักของพรานคนสวยแสนฉลาดที่ดักทางหนีไว้รอบด้านจนแถไปทางไหนไม่ได้อีกต่อไป
ถึงคราวต้องชำระหนี้ที่ไปรังแกเค้าเอาไว้แล้วนะ...พ่อหนุ่มหัวสิงโต..
ส่วนวิธีชำระหนี้ ก็แค่...ทำให้พรานคนสวยฝันหวาน ฝันดี..นับจากวันนี้ไปก็พอแล้ว...
+++++++++E+N+D+++++++++++++++
ตัดจบมันแค่นี้แหละ เพราะยิ่งเขียนยิ่งออกทะเล ( อีกแล้ว ) เมื่อก่อนไม่ค่อยจะจิ้นคู่นี้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าใครเป่าหูให้เขียนคู่นี้
อวยพรชายซักนิด ปกติจะจะเรียกอิโนะจัง ว่าชายเคย์ เพราะมาดเธอเป็นคุณชายมากกกก แต่หลังๆจะโดนจิกกัดบ่อยๆเรื่องความแรด ชายเวิลด์ทัวร์บ่อยเหลือเกิน ยิ่งมีคนจับคู่ชายกับลูกรักอย่างเม่นแล้ว ชายก็จะโดนจิกเพิ่มขึ้นอีก
แต่ยังไงก็ชอบชายน๊า~ แค่จิกกัดตบตีชายมากไปหน่อยเท่านั้นเอง
ขอให้ชายเคย์มีสุขภาพแข็งแรง สวยวันสวยคืน เล่นเปียโนได้เก่งๆ ร้องเพลงเพราะๆ แล้วก็ขอให้เรียนจบไวๆนะ
+++S+p+e+c+i+a+l+++++P+a+r+t+++++++++
"นายยังมั่นใจทฤษฎีของนายอยู่เหรอยูโตะ"
"แน่นอนสิ ทำไมอ่ะ ยามะจัง?"
"ก็ไม่เห็นว่าสองคนนั้นจะรักกันอย่างนายว่านี่ มีแต่จะทะเลาะกันหนักขึ้น"
ตอนนี้เซเวนเมมเบอร์กำลังซ่อนตัวอยู่หลังโต๊ะกินข้าวที่ถูกจัดให้วางตะแคงเพื่อใช้มันเป็นบังเกอร์ชั่วคราวสำหรับหลบกระสุนข้าวของที่ลอยข้ามหัวไปมาจากคู่วิวาทขาประจำของวงที่ยังทะเลาะกันไม่เลิก
"ไม่จริงหรอก ยามะจังดูดีๆสิ สองคนนั่นยิ้มอยู่นะ เห็นป่ะ"
ทั้งห้าคนโผล่หน้าออกจากที่กำบังได้ไม่ถึงนาที แล้วก็ต้องก้มหลบหมอนใบใหญ่ที่ใครไม่รู้ปามา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทันได้เห็นว่า ทั้งยูยะและเคย์กำลังยิ้มอยู่จริงๆ
ยิ้มทั้งๆที่กำลังปาของใส่กันนี่นะ?
"เค้ามีความสุขที่ได้หาเรื่องทะเลาะกันน่ะ พวกนายอย่าใส่ใจเลย"
ยาบุบอกหลังจากที่สามารถหลบข้าวของที่บินว่อนเข้ามาสมทบกับน้องๆได้อย่างปลอดภัย ผิดกับฮิคารุที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาไม่ดูสถานการณ์ เลยโดนสันหนังสือเข้าไปที่หน้าผากเหม่งๆแบบเต็มๆ
"โอ๊ยยยยย!!!! อิโนะจังงงงงงงงง"
สงครามกลางห้องหยุดลงทันที เคย์รีบเข้ามาดูเพื่อนพลางขอโทษขอโพยยกใหญ่
"จะฆ่าฉันฉลองวันเกิดนายหรือไง ถ้าอยากให้ยกโทษให้วันนี้ต้องพาฉันไปเลี้ยงข้าวด้วย พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะไปกินสุกี้หม้อร้อนที่ห้องทาคาคิ"
"เลี้ยงวันเกิดฉันแล้วทำไมต้องไปที่ห้องทาคาคิคุงด้วยล่ะ"
ร่างบางถามขึ้นมาทันทีตามประสาคนฉลาด ปกติแล้วเวลาที่จะพาเมมเบอร์สักคนไปเลี้ยงข้าวในวันเกิด ทุกคนจะลงมติว่าจะไปหาอะไรกินกันตามร้านอาหารไม่ใช่หรือไง เหตุผลคือ อร่อย ง่าย และไม่ต้องล้างจาน แล้วทำไมวันนี้ทุกคนถึงอยากลำบากกัน
"ก็ฉันอยากไป"
คำตอบของไดกิทำเอาร่างบางหมดคำถาม หันกลับไปมองหน้าตาเอ๋อๆของเจ้าของห้อง ที่ดูจะไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา แล้วหันกลับมามองอีกสามคนที่เหลือ...
หน้าตาแบบนี้แสดงว่าต้องมีแผนอะไรสักอย่างแน่ๆ!!
..................................
................
.......
..
หรือว่าเขาจะคิดมากไปเอง?..
พอมาถึงห้องของทาคาคิ ทั้งยาบุ ฮิคารุ และไดกิ ต่างกุลีกุจอช่วยกันเตรียมของสดและน้ำซุปกันเองสามคน ทิ้งให้เจ้าของห้องและเจ้าของวันเกิดนั่งมองหน้ากันเองอยู่สองคน
"เจ้าของวันเกิดก็นั่งเฉยๆไปเหอะน่า นายก็เหมือนกันทาคาคิคุงแค่พวกฉันมากินกันที่ห้องนายก็เกรงใจจะแย่แล้ว"
"พวกนายสามคนรู้จักคำว่าเกรงใจด้วยเหรอ"
โพล่งออกมาแบบหน้าตาเฉย ให้คนถูกถามแยกเขี้ยวกลับมาให้แทนคำตอบ
ปาร์ตี้เล็กๆผ่านไปอย่างสนุกสนาน ถ้าไม่นับเรื่องที่เจ้าของวันเกิดกับเจ้าของห้องปะทะคารมแย่งชิงเนื้อในหม้อละก็ วันเกิดปีนี้ของเคย์คงน่าประทับใจมากกว่านี้อีกโข และเมื่อปาร์ตี้จบลงในเวลาที่ไม่ดึกนัก ทั้งยูยะและเคย์ก็ได้แต่นั่งสบายๆปล่อยให้เพื่อนๆเก็บกวาดห้อง รอจนกระทั่งเพื่อนๆอาบน้ำเข้านอนกันแล้วถึงได้คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำทำธุระของตัวเองบ้าง ตั้งใจว่าก่อนนอนจะอ่านหนังสือทบทวนอีกสักหน่อย
พรึ่บ!!!!
ไฟทั้งห้องดับลง ด้วยฝีมือเจ้าของห้องที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เดินตรงมาทางโซฟาหน้าทีวีที่เคย์นั่งอยู่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเตะหรือชนถูกอะไรแม้อยู่ในความมืด ร่างบางปิดหนังสือลงอย่างอารมณ์เสีย
"นายปิดไฟทำไมเนี่ย"
"ฉันจะนอนแล้ว"
ตอบห้วนๆพร้อมกับลงมือปรับพนักพิงของโซฟาที่ร่างบางนั่งอยู่ให้เอนลงเป็นเตียงนอนชั่วคราวสำหรับคืนนี้
"ก็ไปนอนข้างในห้องซิ"
"สมองเสื่อมหรือไง? ลืมไปแล้วเหรอว่าสามคนนั่นนอนอยู่ในห้อง"
ออกปากไล่เหมือนตัวเองเป็นเจ้าของห้อง จนเจ้าของห้องตัวจริงตอกกลับมาอย่างหงุดหงิดพอกัน ยูยะล้มตัวลงนอนบนอีกข้างของโซฟาพลางดึงหมอน ผ้าห่ม ที่ร่างบางหอบออกมาจากห้องไปใช้
"ไปเอาของตัวเองมาสิ"
พูดไปแล้วก็เหมือนจะนึกได้ว่าทั้งหมอนทั้งผ้าห่มคงไม่มีเหลืออีกแล้วในเมื่อวันนี้มีคนมาค้างอยู่ตั้งสี่คน ร่างบางจึงล้มตัวนอนหนุนหมอนใบเดียวกัน ห่มผ้าห่มผืนเดียวกันกับยูยะอย่างขัดใจ และผล็อยหลับไปทั้งคู่
ทิ้งความงุนงงสงสัยไว้ให้เจ้าของดวงตาอีกสามคู่ที่พยายามเขม้นมองลอดผ่านประตูห้องนอนมาที่โซฟา
"อะไรฟะ นึกว่าจะมีอะไรดีๆให้ดู ไหงหลับไปง่ายๆแบบนี้อะ"
"สงสัยว่าคู่นี้จะไม่ได้แอบกิ๊กกันอย่างที่เราคิดละมั้ง ขนาดก่อนจะนอน ยังหาเรื่องทะเลาะกันได้อีก"
"เสียเวลาชะมัด!"
ไดกิเดินกลับไปล้มตัวลงนอนที่เตียงเป็นคนแรก ยาบุกับฮิคารุ ตามมาติดๆแล้วทั้งสามคนก็หลับปุ๋ยไปแทบจะพร้อมกัน
ส่วนคนที่นอนบนโซฟาท่ามกลางความมืดสนิทและอากาศเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิไว้พอดี คนขี้หนาวเริ่มซุกกายเบียดเข้าหาร่างหนาที่ตอบรับด้วยการสอดแขนใต้แผ่นหลังคนตัวบาง โอบร่างนั้นเข้ามาใกล้มอบไออุ่นจากกายให้คืนนี้หลับฝันดีตลอดทั้งคืน
+++++++++E+N+D+++++++++++++++
น่ารักที่สุด หนิงมาทำให้เขวนะเนี่ย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ReplyDeleteไอ้คู่นี้มันกัดได้น่ารักจริงๆ หวานสมชื่อเรื่อง 3 คนนั้นน่าเสียดายนะอดดูเมมเบอร์ในวงทั้ง 2 คนสวีทกันตอนหลับเลย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พึ่งจะเคยอ่านทาคาเคย์
ReplyDeleteอิโนะจังสาวมากเลยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ผู้หญิงมากๆอ่ะ นิสัย ฮาเวลาพวกเซเว่นซุบซิบกัน ฮ่าๆๆๆ
สนุกดีค่า