Sunday 22 January 2012

[SF]✪~Rabbit on the Moon ~✪ [Daddy part]


Title : Rabbit on the moon [Daddy Part]


Writer : Nalikakeaw


Pairing : KoyaShige


Note :  ออกตัวไว้ก่อนนะคะ ว่าชื่อน้องแมวในเรื่อง จำได้ว่าอ่านมาจากฟิค NEWS ในเว็บ Pandawan แต่เรื่องอะไรจำไม่ได้แล้วเหมือนกันค่ะ พอดีว่าชอบชื่อนี้ก็เลยขอยืมมาใช้หน่อย
             ฟิคเรื่องนี้ได้พล็อตมาจากสเตตัสในเฟซบุคของน้องเตยกับหน่า เมื่อวันหนึ่งที่พระจันทร์เด็มดวง คุยกันไปคุยกันมาเลยออกมาเป็นฟิค เรื่องนี้แหละ แต่ยังไม่ได้บอกน้องเลยว่าเอามาเขียนฟิค
             โคยาชิเงะเรื่องแรกนะคะ เชิญอ่านค่า.....













อะแฮ่มๆ~


สวัสดีครับทุกคน ฟิคเรื่องนี้ผมเป็นพระเอกครับ


ขอแนะนำตัวกันนิดนึง


ผมชื่อ...


"ไอ้โคะ!!!!!"


อ่า..กรุณาอย่าไปฟังเสียงนกเสียงกา เสียงหมาเห่าครับ  จริงๆแล้วผมชื่อ "โคโค่" ต่างหากล่ะ


"ไอ้เหมียวโคะ! เข้าบ้านซะทีสิวะ!"


และเจ้าของเสียงนี้คือเจ้านายผมครับ เจ้านายผู้มีวิทยายุทธปากกรรไกรไร้เทียมทานหาใครต้านทานได้ ซึ่งคนที่โดนงับเอาบ่อยๆก็คือผมนี่ละ  ชื่อหล่อๆมี เจ้านายก็ไม่เรียก พอผมจะออกมานั่งรับลมนอกบ้านเจ้านายก็จะจิกหัวให้เข้าบ้านทุกทีไป ไม่รู้อะไรกันนักหนา


สงสัยว่าเจ้านายจะอิจฉาในความหล่อของผมแน่ๆ


อ้อ! ลืมไปคุณคงยังนึกหน้าผมไม่ออกสินะ อืม..ให้คุณลองนึกถึงแมวขนสั้นพันธ์อเมริกันชอร์ตแฮร์ก็แล้วกัน  อ๊ะๆ! แต่อย่าคิดว่าผมเป็นแมวพันธุ์นั้นนะครับ  ที่เหมือนกัน ก็แค่สีขนเท่านั้นแหละ  หน้าตาผมน่ะหล่อกว่าเยอะ~


แต่ทำไมใครๆก็บอกว่าหน้าตาของผมมันประหลาดกันนะ?


แค่รูปร่างหน้าตาผมไม่เหมือนแมวทั่วๆไปก็แค่นั้นเอง  อย่างดวงตา แทนที่ผมจะมีดวงตากลมใสอย่างลูกแก้ว ก็กลายเป็นดวงตาเรียวๆเล็กๆ เข้ากับใบหน้าผอมๆเรียวๆ ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน แต่เจ้านายว่าผมบ่อยๆว่าตาตี่ผิดวิสัยแมว


รูปร่างผมเจ้านายก็ว่าแปลก คือช่วงตัวกับขาทั้งสี่ของผมเนี่ยมันค่อนข้างยาวกว่าชาวบ้านเขา ก็รู้ตัวอยู่หรอกครับ เพราะเวลาที่ตื่นนอนผมชอบเหยียดตัวยาวๆ  ทีนี้ทั้งขาหน้าขาหลังมันก็เลยยื่นออกมาจากตะกร้า ซึ่งเป็นที่นอนของผมอยู่มากโข  พอเจ้านายเห็น ก็จะโดนด่าอีกว่าเป็นแมวสันหลังยาว


ชีวิตแมวน้อยๆอย่างผมน่าสงสารยิ่งนัก ผิดกับแมวอีกตัวเสียเหลือเกิน


"เรียวจังงงงง"


นั่นไงครับ แมวอีกตัวที่เจ้านายเลี้ยงไว้ แมวตัวนี้นอนเตียงเดียวกับเจ้านายครับ ไม่เหมือนผมที่นอนในตะกร้าริมหน้าต่าง กินข้าวก็กินร่วมโต๊ะกับเจ้านาย กินข้าวที่เจ้านายทำให้  แต่ผมต้องกินอาหารในชามอาหารแมวซึ่งแต่ละวันจะเป็นอาหารเม็ดหรือว่าอาหารเปียกก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเจ้านาย  แล้วบางทีแมวตัวนั้นก็อาบน้ำพร้อมเจ้านาย ให้เจ้านายขัดถูตัวให้สบายใจ  ส่วนผม เจ้านายบอกว่าให้เลียทำความสะอาดขนเอาเองก็แล้วกัน


อย่างว่าละครับ แมวตัวนี้ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ใครไม่หลงก็บ้าแล้ว


แมวตัวนี้ชื่อฮิโรกิ แต่ผมน่ะเรียกคนสวยว่าฮิโระจัง...


"เดี๋ยวก่อนนะฮิโระ ไอ้โคะยังไม่ยอมเข้าบ้านเลย ไอ้แมวตาตี่ เข้าบ้านโว้ย!!!"


"แต่เค้าง่วงนอนแล้วนี่"


ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือเวลาที่แมวตัวนี้อยู่บ้าน เจ้านายจะไม่ค่อยมายุ่งกับผมเท่าไหร่ จะไปคอยเอาใจแต่แมวตัวนั้นแทน และที่สำคัญแมวขี้อ้อนตัวนั้นล่ะที่อุ้มผมเข้าบ้านมา ออดอ้อนทุกกระบวนท่าจนเจ้านายยอมเลี้ยงผม


"เรียวจัง"


ครับ..แมวน้อยเริ่มจะหงุดหงิดแล้ว ถ้าเรียกครั้งที่สามแล้วยังไม่ไปหาละก็ คืนนี้คงอดกินของหวานหรือไม่ก็โดนไล่ออกมานอนที่โซฟาแน่ๆ


อดข้าวยังไงก็อดได้  แต่ถ้าโดนงดของหวาน เจ้านายผมคงขาดใจตายแหงๆ


สุดท้าย.. เจ้านายก็ต้องถลากลับเข้าบ้านด้วยความเร็วสูง ทิ้งผมให้นั่งรับลมอยู่ข้างนอกแต่เพียงผู้เดียว




..................


..........


......



...



อันที่จริงผมก็ไม่ชอบอยู่นอกบ้านซักเท่าไหร่หรอกครับ  พอตกดึกแล้วอากาศมันหนาว ผมน่ะชอบนอนขดตัวกลมๆอยู่ในตะกร้าอุ่นๆมากกว่า ผมจะออกมานั่งกินลมชมวิวนอกบ้าน เฉพาะวันที่บรรยากาศดีๆอย่างวันนี้เท่านั้นล่ะครับ



วันที่พระจันทร์เต็มดวง...


ไม่รู้ทำไม..ผมน่ะ ชอบมองพระจันทร์เต็มดวงเอามากๆ วันไหนที่ขึ้นสิบห้าค่ำผมจะมานั่งแหงนหน้ามองพระจันทร์อยู่ข้างบ่อเลี้ยงปลาของเจ้านาย  ทีแรกก็ถูกเจ้านายไล่ครับ คงนึกว่าผมจะมาคาบปลาคาร์พราคาแพงไปกิน แต่พอเจ้านายเห็นผมนั่งมองพระจันทร์อยู่เฉยๆก็ไม่ว่าอะไรครับ


นอกจากจะเห็นผมเป็นแมวประหลาดมากขึ้นอีกหน่อย...


ความจริงก็เป็นเพราะแมวน้อยขี้อ้อนอีกตัวของเจ้านายนั่นแหละ


ตอนที่ผมยังเล็กๆน่ะ แมวแสนสวยชอบอุ้มผมออกมาเที่ยวข้างนอก เล่าเรื่องโน่นนี่ให้ผมฟัง ผมก็ร้องเหมียวๆตามประสารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง


แต่เรื่องที่ผมติดใจมากที่สุด  ก็คือเรื่องกระต่ายบนดวงจันทร์นี่แหละ ตอนนั้นพอผมมองขึ้นไปที่พระจันทร์ดวงโต ก็เห็นเงากระต่ายหูยาวอยู่บนนั้นจริงๆ


แต่ผมอยากเห็นกระต่ายบนดวงจันทร์ตัวเป็นๆมากกว่า ก็เลยมานั่งมองพระจันทร์ให้เจ้านายด่าจนถึงทุกวันนี้


เจ้านายเคยถามว่ามองพระจันทร์บ่อยๆไม่เบื่อเหรอ?


ตอบได้เลยว่าไม่เบื่อครับ  แต่เมื่อยมากกว่า  พอแหงนหน้าดูของสูงนานๆมันก็มีปวดคอมั่งแหละครับ แต่ผมก็จะใช้วิธีมองดูเงาสะท้อนจากบ่อปลาข้างๆแทน


แล้วพอทำแบบนั้น ...


ผมก็จะเห็นกระต่ายเคลื่อนไหวไปมาเหมือนกับวิ่งอยู่จริงๆ


น่ารักจังน๊า~ ^^



คิก....


เสียงหัวเราะที่ดังมาตามสายลมทำให้หูแมวตั้งขึ้นเพื่อจับทิศทางที่มาของเสียง แต่น่าแปลกไหมครับ ที่ผมรู้สึกว่าเสียงนั้นมันสะท้อนมาจากบ่อปลาข้างๆผม


หรือผมคิดไปเอง?


สงสัยว่าจะมองนานไปหน่อยเลยชักจะเพี้ยน  งั้นผมว่าผมไปนอนดีกว่าเนอะ ก่อนไปขอบอกลากระต่ายแสนสวยก่อนละกัน...








แง้ว~?




ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าผมตาฝาด?


ก็ตอนที่มองพระจันทร์ตะกี๊น่ะ  ผมเห็นกระต่ายตัวนั้นกระพริบตาแล้วก็ยิ้มให้ผมด้วย


เพื่อความแน่ใจ... ขอมองให้ชัดๆอีกทีเถอะ ผมลุกขึ้นยืน ยืดตัวจนสุดปลายเท้า อีกนิด...อีกนิด..


ตูม!!!!!!!


แง้ววววววววววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!


ครับ....ผมคงลืมตัวมากไปหน่อย อยากเห็นกระต่ายชัดๆยืดตัวจนเสียหลักตกลงไปในบ่อปลา กรรมของเวรละทีนี้  วิสัยแมวย่อมกลัวน้ำครับ ที่ผมบอกว่าเจ้านายไม่เคยอาบน้ำให้ นั่นเป็นเพราะเวลาแกจะจับผมอาบทีไรผมจะวิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาต่างหาก



ผมตะเกียกตะกายขึ้นจากบ่อ สำลักน้ำค่อกแค่กเดินกลับเข้าไปในบ้าน ในหูยังแว่วเสียงหัวเราะคิกคักของใครบางคน ที่คอยสมน้ำหน้าในความเซ่อซ่าของผม...






+++++++++++++++++++++++++++++




คืนนั้นทั้งคืน ผมต้องเสียเวลาเลียขนทำความสะอาดตัวเองให้แห้งกว่าจะได้นอน  แล้วตอนเช้าก็โดนเจ้านายด่าเสียจนกลายเป็นแมวหูตูบ เพราะว่าดันไปทำให้พรมเลอะไปทั้งบ้าน ลำบากเจ้านายต้องทำความสะอาดอีกครึ่งวัน

นอกจากนั้นยังโดนคาดโทษกักบริเวณอีกต่างหาก แต่ผมไม่ได้สนใจนักหรอกครับ เพราะกว่าจะถึงวันพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้า  เจ้านายก็ปล่อยผมออกไปข้างนอกแล้วล่ะ


ที่คาใจผมมากกว่า คือเจ้าของเสียงหัวเราะใสๆ ที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นแมวตกน้ำนั่นต่างหาก


แค่เสียงยังน่ารักขนาดนี้  อยากรู้จริงน๊า~ ว่าตัวจริงจะน่ารักขนาดไหน


หลังจากวันนั้นหัวใจผมก็เฝ้าฝันถึงเงากระต่ายบนพระจันทร์แสนสวย  กับเสียงหัวเราะใสๆในสายลม จนไม่เป็นอันกินข้าวปลา ขนาดว่าเจ้านายเอาราเม็งของโปรดมาล่อ ผมยังเมินหน้าหนี


ตอนแรกเจ้านายก็ด่าเอาครับ นึกว่าผมเรียกร้องความสนใจ หรือไม่ก็งอนที่เจ้านายไม่ยอมให้ออกจากบ้าน แต่ผมรู้หรอกครับว่าเจ้านายเป็นห่วง  คอยออกมาสำรวจชามอาหารของผมตอนดึกๆ พอเห็นว่าอาหารไม่พร่องลงไปเจ้านายก็เดินมาหาผมที่นอนอยู่ในตะกร้า คอยดูว่ายังหายใจอยู่รึเปล่า


เป็นอย่างนี้ไปเกือบสัปดาห์ ฮิโระจังคงทนไม่ไหว เจ้านายก็หงอย แมวก็เหงา เลยอุ้มผมไปหาหมอรักษาให้มันรู้แล้วรู้รอด พอไปถึงคลินิกของคนที่รู้จักกัน คุณหมอก็ทักว่า


"ทีนี่รับรักษาแต่สัตว์ ไม่รับผ่าหมาในปากคนนะ ฮิโระจัง"


แน่นอนว่าคุณหมอคงไม่ได้หมายถึงผมหรอกครับ และคงไม่บังอาจระรานไปถึงคนสวยที่อุ้มผมมาด้วย เพราะสายตาคุณหมอมองผ่านเลยเราทั้งสองไปถึงเจ้านายที่เดินหงอยๆตามฮิโระจังมาต่างหาก แต่วันนี้เจ้านายไม่มีอารมณ์จะลับฝีปากด้วยอย่างเคย  ทำได้แค่ถลึงตาใส่น้อยๆแต่พองาม


ทางที่ดี ผมว่าคุณหมอก็ควรจะผ่าเอาทั้งฟาร์มที่เลี้ยงไว้ออกมาบ้างนะ เดี๋ยวจะคุมไม่อยู่ออกมาเพ่นพ่านเที่ยวกัดชาวบ้านเขา


"ว่าไงไอ้ขี้เหร่ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะมาหา วันนี้เป็นอะไร?โดนเจ้านายทรมานทรกรรมมาล่ะสิ"


"จิน!!!!!"


คนสวยอย่างฮิโระจังไม่เคย์แคร์ใคร ว่าอะไรก็ว่าได้ แต่สองสิ่งที่หวงนักหวงหนาห้ามใครแตะ นั่นก็คือแมวประหลาดที่อุ้มอยู่กับคนที่ยืนข้างกายครับ ว่าไม่ได้ ว่าทีไรจะเป็นเรื่องเมื่อนั้น


เวลาฮิโระจังโกรธเนี่ย...น่ากลัวอย่าบอกใครเลยครับ


คุณหมอคงเห็นแววว่าถ้าพูดมากไปกว่านี้อาจจะได้รอยข่วนงามๆกลับไปให้เต่าขีดที่บ้านสอบสวนเป็นแน่ เลยยอมก้มหน้าก้มตาตรวจผมแบบเงียบๆ


เวลาผ่านไปห้านาที หมอจินก็ส่งผมคืนเจ้านายพร้อมผลการตรวจ ที่ทำให้เจ้านายงุนงงอย่างยิ่ง


"ปกติ? ไม่ป่วย ไม่เจ็บตรงไหน? ก็เห็นๆอยู่ว่าไอ้โคะมันไม่สบาย เซื่องซึมไม่กินข้าวปลา นี่แกจบสัตว์มาจริงเรอะ ห่วยว่ะ!"


โว้ว!~ เจ้านายคนเดิมของผมกลับมาแล้วครับ เป็นไงล่ะคุณหมอ รู้สึกว่าทั้งฟาร์มที่เลี้ยงไว้น่ะ ดีกรีไม่แรงพอจะมาสู้ฟาร์มของเจ้านายนะครับ


"ฟังให้จบก่อนสิเว้ย!!! ฉันกำลังจะบอกแค่ว่าสุขภาพแมวมันปกติดี ทึ่มันไม่ยอมกินข้าวอาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น!"


"อะไรวะ"


"มีอยู่สองกรณี อย่างแรก เบี่ออาหาร ให้อาหารเม็ดมันทุกวันแมวมันก็เบี่อได้โว้ย เปลี่ยนอาหารให้มันบ้างแต่แนะนำว่าอย่าเข้าครัวทำเอง เพราะฝีมือทำกับข้าวของแกมันโคตรห่วย หมาแมวไม่รับประทาน"


หมอ! เวลาจะพูดอะไรช่วยมองหน้าคนสวยนิดนึงครับ อาหารที่ว่าหมาแมวไม่รับประทานเนี่ย ฮิโระจังกินแล้วชมว่าอร่อยทุกจานนะหมอ


"อย่างที่สอง เครียด! แมวมันเป็นสัตว์รักอิสระขังมันไว้แต่ในบ้านมันก็เครียดสิวะ! ทีแกยังหนีเที่ยวตอนที่ฮิโระจังไม่อยู่เลยนี่หว่า"


ผมได้แต่ร้องเหมียวๆ ปลอบใจเจ้านาย ยามที่ถูกตาคู่สวยของคนรักจิกจ้องเอาเรื่องจนตัวหด แต่อย่านึกว่าคุณหมอจะรอดนะครับ คนสวยไม่โง่นะขอบอก


"รู้ดีขนาดนี้แสดงว่าไปด้วยกันมาสินะ จิน!!!"


ฮิโระจังถามเสียงหวาน ยิ้มเยือกเย็นชวนให้คนมองเสียวสันหลังวาบๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคหายนะ ตัดสินชะตาของคุณหมอในคืนนี้


"ฉันจะบอกคาเมะจัง!!!"


รักษาตัวนะครับหมอ..อาเมน....










++++++++++++++++++++++++++++++






แล้วในที่สุดผมก็ได้ออกมานั่งชมจันทร์ริมบ่อปลาเหมือนอย่างเคย ...


"พระจันทร์ดวงนี้มันมีอะไรดีหนักหนาวะ แกถึงมานั่งมองอยู่ได้ทั้งคืน"


แง้วววว~  เจ้านายคร้าบบบบ!!!  ไม่ต้องกลัวผมเหงานักก็ได้ กลับเข้าบ้านไปเถอะ  เจ้านายนั่งอยู่อย่างงี้แล้วกระต่ายน้อยของผมจะมาให้เจอม๊ายยยยยย!!!!


นั่งอยู่ตั้งแต่สามทุ่ม ตอนนี้เที่ยงคืน พระจันทร์ตรงหัวแล้ว กลับไปนอนเถอะครับเจ้านาย


"ฮ้าววว~ ฉันง่วงแล้ว เข้าบ้านเหอะไอ้โคะ"


เมี้ยวๆๆๆๆๆๆ ไม่อ๊าววววววววว ไม่ไป ๆๆๆๆๆๆๆ


ผมตะเกียกตะกายโวยวายลั่น แต่เจ้านายฟังภาษาแมวไม่ออกหรอกครับ เลยอุ้มผมหนีบติดมือไปด้วย แต่ขณะที่กำลังจะก้าวเข้าบ้านนั่นเอง


"เรียวจัง"


โฮกกกก.. นางฟ้ามาโปรดแล้วครับ  เจ้านายปล่อยมือจากผมทันที เพื่อจะรับของฝากจากบ้านเกิดที่ฮิโระจังหอบมาให้แล้วหิ้วเข้าบ้านไปเลย ส่วนฮิโระจังก็ลูบหัวทักทายผม ปลายนิ้วเรียวจิ้มหน้าผากผมแรงๆหนึ่งทีเป็นเชิงว่ารู้ทัน


"อยากชมจันทร์อีกล่ะสิคืนนี้ ยังไงก็ระวังอย่าตกน้ำไปอีกล่ะ"


เมี้ยววว  รักฮิโระจังที่สุดในโลก


หลังจากออดอ้อนพันแข้งพันขาส่งคนรักของเจ้านายเข้าบ้านไปแล้ว ผมก็กลับมานั่งสบายอารมณ์ตรงที่เดิม ว่าแต่วันนี้กระต่ายน้อยของผมยังไม่ส่งเสียงมาให้ได้ยินเลยน๊า~


คิก~...


เหมียว? หูแมวกระดิกดิ๊กๆ ตาตี่ๆเริ่มล่อกแล่กเหลียวซ้ายแลขวา ตั้งใจหนักหนาว่าจะหาที่มาของต้นเสียงให้ได้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ อยากเห็นหน้าตาเจ้าของเสียงแบบชัดๆ


แต่แปลกไหมครับ?  ผมได้ยินเสียงมาจากบ่อน้ำจริงๆนะ  หรือเสียงที่ผมได้ยินนั่นไม่ใช่เสียงกระต่าย แต่เป็นเสียงปลาปูที่อยู่ในบ่อ


และขณะที่ผมกำลังก้มๆเงยๆอยู่ตรงบ่อน้ำนั้นเอง


พลั่ก!!!!!!!


แอ่ก!!!!  อะไรไม่รู้หล่นใส่หลัง ไม่เจ็บหรอกครับ แต่จุก...



"โอ๋ยยยย เผลอหล่นลงมาจนได้~"


เหมียว? เสียงนี้-? ใช่เสียงเดียวกับที่หัวเราะผมคราวก่อนแน่ๆล่ะ ว่าแต่เสียงนั้นมาอยู่บนตัวผมได้ไง?


ผมค่อยๆเหลียวกลับไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะจ๊ะเอ๋เข้ากับดวงตาคู่โตที่มองมาตาปริบๆเช่นเดียวกัน ตาตี่ๆของผมเบิกกว้างในทันใด


กระต่ายตกจากดวงจันทร์จริงๆเหรอเนี่ย


"มองอะไรน่ะ"


กระต่ายสีขาวถามตาแป๋ว ยกขาหน้าขึ้นคลำหัวตัวเองป้อยๆ ยังคงนั่งทับบนหลังผมต่อไปเสมือนผมเป็นเบาะรองนั่ง ผมได้แต่ใช้สายตาสำรวจแขกผู้ตกจากฟ้าอยู่เงียบๆ กระต่ายตัวนี้เป็นสีขาวไปทั้งตัว  ดวงตากลมใสสีดำ คงจะอายุพอๆกับผม แต่ตัวเล็กกว่า แล้วตอนนี้กระต่ายตัวนั้นก็ลงจากตัวผมไปนั่งอยู่ข้างบ่อปลา มองเงาสะท้อนของตัวเองด้วยตื่นเต้น


"พอเป็นกระต่ายแล้วหน้าตาแปลกๆแฮะ"




"แล้วก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นกระต่ายเหรอ"


แมวงงอีกแล้วครับ ในหัวผมนึกไม่ออกว่าถ้ากระต่ายไม่ได้เป็นกระต่ายแล้วจะเป็นตัวอะไร แต่งงได้แป๊บเดียวเท่านั้นครับ พอได้เห็นยิ้มหวานๆที่กระต่ายขาวส่งมาให้ สมองผมก็มีแต่ภาพดาวเดีอนบนฟ้าเต็มไปหมด


"ก็ตอนที่อยู่บนดวงจันทร์น่ะเป็นมนุษย์ ไม่ได้เป็นกระต่ายแบบนี้นี่"


แสดงว่าบนดวงจันทร์คนมีใครซักคนที่เสกให้กระต่ายเป็นมนุษย์ได้สินะ เอ? หรือว่าเสกให้มนุษย์บนดวงจันทร์ให้กลายเป็นกระต่ายยามลงมาที่โลกกันแน่หว่า  ว่าแต่กระต่ายตัวนี้ลงมาได้ไง?


"หล่นลงมา เพราะนายนั่นแหละ นายแมวประหลาด มองพระจันทร์อยู่ได้!"


แล้วกระต่ายขาวก็บ่นยาวเป็นชุดๆ ให้พอจับใจความได้ว่า บนดวงจันทร์มีสระน้ำใหญ่ที่เป็นเหมือนกระจกใส สะท้อนให้เห็นทุกความเป็นไปบนโลก และยังเป็นประตูเชื่อมระหว่างกันโดยใช้แสงจันทร์ที่สะท้อนบนผิวน้ำเป็นทางเดิน กระต่ายขาวตัวนี้ก็ชอบมานั่งมองดาวสีน้ำเงินดวงนี้ผ่านสระน้ำเหมือนกับที่ผมนั่งมองพระจันทร์


แล้วที่หล่นลงมานี่มันเป็นความผิดของผมตรงไหนครับเหมียว?


กระต่ายขาวมองแมวลายขายาวตรงหน้าอย่างขัดใจ ผิดสิ! ผิดที่มานั่งให้เจ้าหญิงอุซางิชิเงะคนนี้มองอยู่ทุกคืนแล้วก็หายหัวไป ผิดที่มาทำให้คิดถึงแล้วหนีหน้า ผิดที่ที่ไอ้แมวบ้านี่ก้มๆเงยๆอยู่ข้างบ่อปลา เขาก็บ้าจี้ก้มลงมองด้วย แต่ก้มมากไปหน่อยเลยกลิ้งลงไปในบ่อจนหล่นมาอยู่ตรงนี้   ผิด! ผิด! ผิดทั้งนั้นแหละ!


เชิดหน้าหนีเสียงร้องเหมียวๆของแมวซื่อบื้อที่ยังคงทำหน้าเอ๋อไม่เลิก แต่วินาทีต่อมาก็รู้สึกเหมือนว่ามีอะไรมาถูๆไถๆอยู่ตรงแก้ม


เมี้ยว~!


วิธีอ้อนง้องอนฉบับแมวทำเอาสองแก้มกระต่ายน้อยร้อนฉ่า โชคดีที่ตอนนี้เป็นกระต่ายต่อให้หน้าแดงขนาดไหนแมวเซ่อตัวนี้ก็คงไม่สังเกต


แต่มันเขินอ่ะ...


เวลาชั่วคืนผ่านไปเหมือนหนึ่งวินาที หลังจากที่คุยกันจนลืมเวลา กระต่ายขาวตาใสก็บอกว่าจะต้องกลับบ้านแล้ว


"พรุ่งนี้มาอีกนะ"




"ไม่ได้หรอก"


ในหนึ่งเดือนทางเดินแสงจันทร์นั้นจะปรากฎขึ้นเพียงห้าวัน นั่นคือช่วงวันที่พระจันทร์ส่องแสงแรงกล้ามากที่สุด วันที่พระจันทร์เต็มดวง สองวันก่อนหน้าและสองวันหลังจากนั้น หากพ้นจากช่วงนี้ไป พระจันทร์จะอ่อนแสงจนมองไม่เห็นทาง


"งั้นก็กลับไม่ได้ล่ะสิ"




"ต้องรออีกเดือนหนึ่งถึงจะกลับได้ล่ะ เพราะงั้นถึงต้องรีบกลับไง  ไปก่อนนะ"


ตัดใจบอกลาอย่างแสนเสียดาย กระต่ายขาวมองไปตามเส้นทางสู่ดวงจันทร์แล้วใจหาย พอนึกว่าอีกตั้งเดือนถึงจะได้มาเจอกันอีกครั้ง


แต่เอ?... ทำไมก้าวขาไม่ออกหว่า?..


"ไม่ให้ไปหรอก"


เจ้าหญิงกระต่ายมองแมวตัวโคร่งที่กำลังงับขาข้างหนึ่งของตัวเองตาแทบถลน หัวใจเต้นโครมครามยามได้สบตา


ไม่!! ไม่นะ!!!


แมวซื่อเซ่อซ่าตัวเมื่อกี๊หายไปไหน  แล้วไอ้แมวตี๋ตาตี่วิ้งวับเจ้าเล่ห์ปานเสือนี่มันเป็นใคร?


"น-นะ-นาย"




"อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ ไม่ให้กลับไปแล้ว "


กระต่ายน้อยดิ้นสุดแรงตอนที่ถูกงับขาดึงให้พ้นจากบ่อน้ำ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นแต่อยู่ในร่างกระต่ายก็ทำไม่ได้ ร้องให้ใครช่วยก็ไม่ได้อีก


"ปล่อยนะ! ฉันจะกลับบ้าน!"




"ไปแล้วจะไม่คิดถึงฉันเหรอ ข้างบนนั้นน่ะไม่มีใครคุยด้วยถึงได้ลงมาใช่มั๊ยล่ะ เหงาก็มาอยู่กับฉันสิ"


วิสัยแมวยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่วันยังค่ำ ลูกอ้อนน่ารักๆแบบนี้มีหรือกระต่ายตาใสซื่อจะรู้ทัน ว่าแมวตัวโคร่งมันหวังผลอะไร


"ก-ก็ไปอยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ"


เรียบร้อยโรงเรียนแมว! กระต่ายตกหลุมพรางชวนไปอยู่ด้วยแล้ว แต่แมวเจ้าเล่ห์ยังคงลองเชิงต่อไป


"ได้ไงล่ะพอขึ้นไปข้างบนนายกลายเป็นคน ส่วนฉันก็เป็นแมวอยู่ดี"




"ไม่นะ เวทมนต์บนดวงจันทร์น่ะ ไม่ว่าใครขึ้นไปก็จะกลายเป็นคนทั้งนั้นแหละ"


แมวลายหรี่ตามองกระต่ายขาวที่ก้มหน้าพูดกับพื้นพลางเขี่ยดินเล่น หูบางๆเปลี่ยนเป็นสีจัดขึ้นทุกทีๆ  เห็นแล้วอยากจะงาบเสียเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ


แต่ว่านิสัยกระต่ายขี้ตกใจ รอให้ไปถึงบนดวงจันทร์ก่อนค่อยงาบก็ได้ละมั้ง


อะแฮ่ม ~  เจ้านายครับ ขอลาไปเที่ยวบนดวงจันทร์ซักเดือนนะคร้าบบบ แล้วขากลับจะคาบหินบนดวงจันทร์มาฝาก...







END....

1 comment:

  1. แอบงงกะเจ้าของแมวเล็ก แต่ไม่งงละ สรุป เรื่องนี้ แมวโคโค่ กะกระต่ายชิเงะเป็นตัวเด่นสินะ เหอๆ

    ไปอ่านตอนต่อไปดีกว่าาา

    ReplyDelete