Title : 2K Corporation [ ซีรีย์ 2 ]
Writer : Nalikakeaw
Pairing :
Okaryu
ทำไมต้อง 2K ด้วยวะ?...
ผมยืนอยู่หน้าออฟฟิซของพี่ชาย บริษัทที่มีนโยบายเพียงข้อเดียวว่า
“เกย์คู่กับเกย์ฉันท์ใด ทูเคย์ย่อมจะช่วยให้ชายได้ชายฉันท์นั้น”
ใครมันบ้าคิดสโลแกนนี้วะ ?
ถ้าผู้ชายได้กันเองหมดโลก .. จนสาววายสูญพันธ์ แล้วใครจะจิ้นให้ผู้ชายรักกันล่ะเฮีย?
เหอะ!!! ไอ้คนตั้งบริษัทมันก็บ้าพอกัน ( พี่ชายผมเอง ) ไม่รู้ยังไง ตั้งแต่ได้ภรรยา ( หรือสามีกันแน่หว่า? )
เป็นเพื่อนข้างตัวเพศเดียวกันเนี่ย
ก็ดันเกิดปิ๊งไอเดีย เปิดบริษัทรับจับคู่ชายให้ชายซะงั้น
แต่ไม่น่าเชื่อนะครับ พอเปิดบริษัทปุ๊บ เก้งกวางทั้งหลายก็มาใช้บริการปั๊บ รายได้ดีเป็นเทน้ำเททิ้ง (?) แต่งานมาปัญหาก็เกิดตามมาด้วย เพราะลูกค้าบางคน ดันเปลี่ยนใจอยากได้เจ้าของบริษัทกับหุ้นส่วนไปเป็นคอลเล็คชั่นแพ็คคู่ซะงั้น บางคนติดใจคอยส่งข้าวส่งน้ำ
หลายคนคอยตามติดชีวิตส่วนตัวทุกมุม คอยถ่ายรูปเอาไปทำป้ายไวนิลแปะฝาบ้าน
แรกๆก็ไม่มีใครสนใจหรอกครับ
ถือซะว่าเค้าช่วยโปรโมทบริษัทให้โดยไม่ต้องเปลืองตังค์จ้างบริษัทโฆษณา แต่อยู่ดีๆหายนะก็บังเกิดครับ ไดจัง แฟนพี่เคย์มาเจ๊อะเข้าตอนที่เก้งกวางทั้งหลายกำลังพยายามจะฉุดกระชากลากเจ้าของบริษัทกับหุ้นส่วนไปทำมิดีมิร้ายอยู่พอดี
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น? ...
ผมไม่บอกหรอกครับ ภาพพี่เขย + สะใภ้ ยกตู้เย็นทุ่มใส่แฟนคลับไอ้พี่เคย์
ไอ้พี่เคตแล้ว บอกได้คำเดียวครับ..
สยองงงง....
จากนั้น.. มาตรการความปลอดภัยรูปแบบใหม่ถูกนำมาใช้แบบไม่มีกำหนดเปลี่ยนแปลง ก็ไอ้เครื่องแสกนลายนิ้วมือที่ลูกบิดประตูเนี่ย!!
เคยถามว่าทำไมมาติดแค่ห้องนี้ห้องเดียว ไม่ติดซะที่ประตูหน้า กรุสมบัติมหาศาลข้างล่างจะได้ปลอดภัยด้วย ไดจังก็ตอบว่า
“ของพวกนั้นมีเงินก็ซื้อใหม่ได้ แต่ไอ้สองหล่อที่อยู่ในห้องนั่นน่ะ ถ้าบุบสลายไปแล้วหาใหม่ไม่ได้นะ”
เออจริง!!!
แต่ไอ้ที่มายืนบื้ออยู่หน้าประตูออฟฟิซนี่ไม่ใช่เพราะกลัวบรรดาแฟนคลับแอบเข้าข้างหลังบังคับจี้คอให้แสกนนิ้วเปิดประตูหรอกครับ
แต่ผมสงสัย.. ว่าทำไมต้องเป็นทูเคย์
ก็แปลก.. เดินเข้าออก เห็นป้ายทูเคย์นี่ทุกวันไม่คิดอะไร แต่วันนี้เห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ อารมณ์ไหนก็บอกไม่ถูก
อันที่จริงอามรณ์ผมก็ขึ้นๆลงๆตั้งแต่เจอเพื่อนซี้ที่ชื่อยูริแล้วครับ
ไม่ใช่เพราะมันนั่งทับเจ้าแฮมของผมตายหรอกครับ
แต่เป็นเพราะมันไปลากป๋าของมันให้มาสร้างฟาร์มหนูชดใช้ให้ผมต่างหาก
ก็ป๋ายูยะของไอ้ลูกหนูยูริมันหล่อน้อยเสียที่ไหน
ถึงพุงจะล้ำไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ล้ำความหล่อของป๋าซักนิด
ตกหลุมอะไรก็ไม่รู้ละครับ
รู้แต่ว่าผมเห็นหน้าไอ้คุณป๋าลอยไปลอยมาสามเวลาหลังอาหารและก่อนนอน เอ๋อจนโดนยูริจับได้ว่าแอบชอบป๋า เลยต้องสารภาพออกมาแบบช่วยไม่ได้
แต่แค่สารภาพกะไอ้ลูกหนูของป๊ะป๋านะครับ เพราะถึงผมจะเป็นเพื่อนซี้ แต่ยูริก็ถือคติว่าเพื่อนก็คือเพื่อน เพื่อนเปลี่ยนสถานะเป็นแม่เลี้ยงไม่ได้ ที่สำคัญมันรักป๋าหวงป๋ายิ่งกว่าไข่ ( ในหิน
) ผมก็เลยได้แต่แอบชอบป๋าแบบห่างๆ
“อ้าวริว! ทำไมมายืนตรงนี้ล่ะ เข้าไปข้างในสิเคย์โตะกำลังถามหาอยู่พอดี”
พอได้ยินชื่อหุ้นส่วนของพี่ชาย
ความหงุดหงิดก็เล่นปรี๊ดขึ้นสมอง
“ไม่เอา!!!
ไม่อยากเห็นหน้าไอ้พี่เคต!!”
แล้วผมก็สะบัดหน้าหนี เดินหนี
ทิ้งปัญหาให้คุณพี่ในไส้ขมวดคิ้ว
เตรียมพร้อมกลับเข้าไปเล่นงานหุ้นส่วน อย่างที่ผมได้ยินเสียงแหลมๆ
เล็ดรอดจากประตูห้องตามหลังในหนึ่งนาทีต่อมา
“มึงทำอะไรน้องกู!!!”
พี่ผม ... กับเพื่อนกับฝูงภาษาดอกไม้ไม่มีซะล่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมนั่งอยู่ในฟาร์มแฮมสเตอร์ส่วนตัวที่ป๋าของไอ้ยูริสร้างให้ พื้นที่หนึ่งตารางวาเนี่ย
เป็นฐานลับส่วนตัวเวลาที่ผมมีเรื่องหงุดหงิดแต่ไม่อยากเหวี่ยงวีนกับใคร ผมก็จะมาที่นี่ มานั่งมองหนูแฮมสเตอร์วิ่งอยู่ในจักรหมุนให้มันเวียนหัวเล่นๆ
“ริวจัง”
ไอ้พี่เคตพกพาหน้าหล่อกล้ามโตแบบไม่บุบสลายมาตามหาผม แต่ให้ตาย!! ทำไมไอ้พี่เคย์ไม่ยักกะกางเล็บฟ้อนใส่ให้หน้าลายอย่างที่ผมคิดไว้ล่ะเนี่ย
“ริวจัง
โกรธอะไรอยู่เหรอ?”
โกรธมึงนั่นแหละครับ!! ไอ้พี่เคต รู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วใช่มั๊ย
ว่าคนที่ผมแอบชอบคือเพื่อนตัวเองน่ะ
ไอ้บ้าเอ๊ยยย!! นั่งฟังผมเพ้อถึงป๋าของไอ้ยูริอยู่เป็นเดือนๆ
แต่ไม่บอกผมซักคำว่ารู้จักกัน
“ริวจัง”
เรียกอยู่ได้โว้ย!!! น่ารำคาญ!!! แต่พอหันไปเห็นไอ้หัวเม่นกำลังมุดเข้าฟาร์มหนูมาหาผม
เลยต้องร้องลั่น
“จะเข้าทำบ้าอะไรเล่า!!!
ที่มีอยู่แค่นี้ ออกไปยืนข้างนอก!! “
พื้นที่หนึ่งตารางวาแค่ผมคนเดียวก็แออัดจะแย่แล้ว
ลองไอ้พี่เคตเข้ามาสิมันคงเหยียบบรรดาน้องแฮมของผมตายหมดฟาร์ม
ด่าแล้วยังมีหน้ามายิ้มให้อีก!!
“ก็นึกว่าริวไม่ได้ยินที่พี่ถาม”
“ได้ยิน!!! แต่ไม่อยากคุยด้วย!! มีอะไรมะ?”
“ยังโกรธพี่เรื่องยูยะอีกเหรอ?”
สะบัดหน้าหนีเพราะคำถามมันจี๊ดแทงใจ ก็เออสิ!!! ปล่อยให้เราเพ้อเป็นบ้าเป็นหลังแล้วก็แอบหัวเราะอยู่ในใจใช่มั๊ยล่ะ เจ็บใจนัก!!!
“รู้ไหมทำไมพี่ไม่บอกว่ารู้จักยูยะ”
ไม่อยากรู้!!! คนเค้าหันหลังให้แล้วยังคิดจะคุยด้วยอีก เออ!! อยากพูดก็พูดไป
แต่อย่านึกว่าจะฟังนะ
“เพราะพี่อยากให้ริวตัดใจ”
ไม่ฟังครับ...แต่หันกลับไปมองหน้าไอ้คนพูดอย่างเร็วจนคอแทบหัก หมายความว่าไงวะ?
“ทำไมต้องให้ตัดใจด้วย แค่ชอบไปเรื่อยๆแบบนี้มันไปหนักหัวใครรึไง?”
“พี่ไม่อยากเห็นริวผิดหวัง”
“ไอ้-!!”
หันหลังใส่เลย อยากด่าแต่ก็ด่าไม่ออก น้ำตามันพาลจะไหลแทนซะงั้น รู้แล้วโว้ยว่ายูริมันหวงพ่อ
รักพ่อมากกว่าเพื่อน
แล้วไอ้พ่อของเพื่อนก็ไม่มีวันจะหันมาแลเพราะมันรักลูก แต่จะมาพูดตอกย้ำทำไมวะ เดี๋ยวปั๊ดเขวี้ยงอาหารหนูใส่ให้หมดหล่อเลย
“ผิดหวังก็ผิดหวังคนเดียว! เจ็บก็เจ็บคนเดียวไม่เกี่ยวกับใคร!
ไม่ต้องมายุ่งเลย!!”
“ริวจังนี่น๊า~ ไม่เข้าใจอะไรซะเลย”
พูดอยู่ประโยคเดียวแล้วก็เงียบไปเป็นชาติ!! พอหันหลังกลับไป
ไอ้พี่เคตก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว...
อารมณ์อะไรสักอย่างแล่นขึ้นมาจุกอกจนพูดไม่ออก
จะว่าโกรธก็ได้ น้อยใจก็ด้วย ตอนที่คิดว่ารักเขาแล้วเขาไม่รักตอบ
นี่เจ็บแล้วนะ
แต่ตอนที่หันไปเห็นว่าข้างๆเรามันไม่มีใครเนี่ย..
เจ็บยิ่งกว่า...
แล้วน้ำตาที่ปริ่มๆจะไหลก็ทะลักทะลายออกมายิ่งกว่าเขื่อนแตก ไอ้พี่เคต!!! ไอ้คนโกหก!! ไหนเคยสัญญาว่าจะคอยอยู่ข้างๆไงเล่า!!! แค่ออกปากไล่หน่อยเดียวก็ทิ้งกันไปได้ไง ? งี่เง่า!!!
++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่ร้องไห้จนหัวเข่าเปียกปอนน้ำมูกน้ำตาอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ผมก็ตัดสินใจมุดออกจากฟาร์มหนูส่วนตัว ออกมาเผชิญโลกแห่งความจริง แต่ตาที่บวมฉึ่งเลยทำให้วิสัยทัศน์เบลอยิ่งกว่าคนสายตาสั้นสี่ร้อยไม่ใส่แว่น
ทำให้ผมเหยียบอะไรไม่รู้สะดุดล้มหน้าคว่ำ
“ริวจัง
ยังโกรธพี่อยู่อีกเหรอ?”
เวร!! นี่ผมเหยียบโดนส่วนไหนของไอ้พี่เคตวะเนี่ย สมองถึงได้เบลอถามผมแบบนี้แทนที่จะร้องโอดโอยที่โดนผมเหยียบแถมล้มทับไปเต็มๆ
แล้วมานอนทำอะไรตรงข้างฟาร์มหนูของผมมิทราบ
ที่ผมเห็นว่าหายไปเป็นเพราะที่แท้ไอ้พี่เคตนอนหลับ แว้กๆๆๆๆ
แบบนี้มันก็ได้ยินผมร้องไห้ฟูมฟายด่ามันเมื่อกี๊อะดิ!!
“ทำไมยังไม่กลับไปอีก”
“ก็พี่ชายริวไม่ยอมให้พี่เข้าออฟฟิซจนกว่าจะง้อริวได้น่ะสิ”
“อ๋อเหรอ?!!!”
ปรี๊ดขึ้นสมอง!!! ที่แท้ไอ้พี่เคตมันไม่ได้ห่วงผม
แต่กลัวหุ้นส่วนมันเล่นงานว่างั้น
ขอเหยียบซ้ำอีกทีเถอะ!!
“ไอ้พี่เคต!! ปล่อย!!”
พอผมทำท่าจะลุก
ไอ้พี่เคตก็ตวัดแขนกอดผมไว้ทั้งตัว
ไอ้บ้านี่ก็กล้ามโตแรงเยอะซะจนผมดิ้นไม่หลุด ท้ายที่สุดแล้วผมก็ดิ้นจนหมดแรงซะเอง
อยากกอดก็กอดไป!! ขี้เกียจดิ้นแล้ว
“ไม่โกรธแล้วเหรอ?”
“โกรธ!! แต่เหนื่อยแล้ว!! ง่วงด้วย!!”
นี่ถ้าไอ้พี่เคตไม่กดหัวผมไว้กับอกล่ะก็
พ่อจะงับให้หัวขาดเลย แง่ง!!!
“เหรอ? งั้นริวโกรธพี่นานอีกหน่อยก็ได้ พี่ขี้เกียจเข้าออฟฟิซ”
จะใช้ผมเป็นข้ออ้างโดดงานว่างั้น ? หุ้นส่วนใครวะ
ดี๊..ดี.. คอยดูเหอะ ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่จะไปฟ้องไอ้พี่เคย์
แต่ตอนนี้ตาจะปิดแล้ว ...
สงสัยร้องไห้มากไปหน่อยมั้ง หัวผมก็เลยวางแปะอยู่บนอกหนาๆของไอ้พี่เคต เอาแขนวางพาดตัวแล้วก็หลับ..
แต่ก่อนจะหลับ.. แว่วๆว่าไอ้พี่เคตมันบ่นอะไรนะ
“แก้ปัญหาเรื่องความรักของคนอื่นได้เป็นร้อยเป็นพัน..
แต่เรื่องของตัวเองดันทำไม่ได้
แย่จริงๆเลยน๊า~”
บ่นไรวะ?
คนจะหลับ หนวกหูว้อยย!!!
+++++++จบแล้วจ๊ะ+++++++
กรี๊ดดดดดดดด น่ารักอ่ะ เคย์โตะแบบนี้แหละหล่อกระชากใจจริงๆ แล้วทำไมไม่บอกไปล่ะว่าชอบเค้าอ่ะ โหยยยย คนอ่านขี้เกียจลุ้นนะ 5555 จะจบแค่นี้รึคะหนิง 55555
ReplyDeleteเราโดนปี้หนิงวางยา ╮(╯3╰)╭ ทำไม๊ทำไมต้องทูเคย์....ซีรี่ย์หน้าน้องต้องให้คำตอบป่ะเนี่ย
ReplyDeleteแต่ฮาไอ้น้องริว คุณปี้เคอะ!!!ฟาร์มอ่ะหนึ่งตารางวา แต่รอบๆฟาร์มน่าจะพอให้ไอ้พี่เคตเข้าไปซุกได้อยู่นะ
ตายละ...น้องริวแอบโดนจีบ ซึนนะเนี่ย
อย่างนี้ต้องไปฟ้องป๋า ╰( ̄▽ ̄)╭